

41
ปีที่ 43 ฉบับที่ 194 พฤษภาคม - มิถุนายน 2558 ี
ที่ ั
บี่ ิ
ถุน
“สอนเพื่อท�
ำข้อสอบ” ส่งผลอย่างไรกับนักเรียน
“การสอนเพื่อท�
ำข้อสอบ” ไม่มีประโยชน์เลยหรือ
การสอนที่มีการวางเป้าหมายและแผนการด�
ำเนินงานไว้
ชัดเจน ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้เพื่อไปสู่เป้าหมายที่วาง
เอาไว้ได้อย่างราบรื่น และผู้สอนประเมินความส�
ำเร็จได้ง่าย เป็น
ยุทธวิธีในการสอนที่ดี แต่ระหว่ างการด�
ำเนินการสอนใน
ชั้นเรียน ผู้สอนจะต้องเผชิญกับความสนใจ และความต้องการที่
หลากหลายของผู้ เรียน จึงอาจต้องมีความยืดหยุ่น และ
ปรับเปลี่ยนการสอนเพื่อตอบสนองความหลากหลายเหล่านั้น
และ ถ้าหากเป้าหมายที่วางเอาไว้เป็นเพียงเพื่อการท�
ำคะแนน
จากการสอบได้ดี สิ่งต่าง ๆ ที่การศึกษามุ่งหวังในการบ่มเพาะ
และปลูกฝังให้เกิดกับนักเรียน เช่น การพัฒนาบุคลิกภาพ เจตคติ
แรงบันดาลใจ คุณธรรม และอีกหลาย ๆ อย่าง จะได้รับ
ความส�
ำคัญน้อยหรือไม่ได้รับความใส่ใจเลย
เมื่อพิจารณาในแง่มุมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน
แล้ว “การสอนเพื่อท�
ำข้อสอบ” ส่งผลกับการเรียนในชั้นเรียน
ของนักเรียนดังต่อไปนี้
• การเรียนการสอนในห้อง มีลักษณะที่ครูเป็นศูนย์กลาง
ถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียน และพยายามครอบคลุมเนื้อหาให้
ครบตามที่จะมีในข้อสอบ ท�
ำให้ สิ่งอื่น ๆ ที่ส�
ำคัญกับการเรียนรู้
และการพัฒนานักเรียนได้รับการมองข้าม
• ระหว่างการสอน หากมีค�
ำถามจากนักเรียน หรือ มีสิ่งที่
นักเรียนสนใจต้องการอยากรู้เพิ่มเติม การสอนเพื่อมุ่งท�
ำข้อสอบ
จะไม่ยืดหยุ่น หรือ ให้ความส�
ำคัญมากนัก ท�
ำให้การเรียนรู้ไม่
สร้างเสริมความอยากรู้อยากเห็น การคิดวิเคราะห์วิจารณ์
(critical thinking) และ การคิดที่แตกต่างหลากหลายแนวทาง
(divergent thinking) ของนักเรียน เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
ความคิดสร้างสรรค์
• บรรยากาศของการเรียนรู้เป็นไปด้วยความกดดัน และ วิตก
กังวล เพราะคะแนนจากการสอบจะส่ งผลหลายอย่ าง
กับนักเรียน นักเรียนจึงรู้สึกกดดันและเกรงว่าจะท�
ำผิดพลาด
• ปัญหาและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกการท�
ำงานและการ
ด�
ำรงชีวิตจริงในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้ มีความสลับซับซ้อน
ไม่มีค�
ำตอบเดียวที่แน่นอน เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การสอน
ในลักษณะบรรยาย ผู้เรียนคอยรับฟังโดยไม่มีการอภิปราย ไม่มี
กิจกรรมฝึกฝนการน�
ำไปใช้ในสถานการณ์จริง จึงไม่สอดคล้อง
กับการเตรียมนักเรียนให้สามารถน�
ำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิต
จริง
• ความรู้ที่ได้มาจากการถ่ายทอดของผู้สอน ไม่ใช่การค้นพบ
ด้วยตัวของนักเรียนเอง ท�
ำให้ความรู้ที่ได้ไม่คงทน นักเรียนน�
ำ
สิ่งที่ได้ เรียนรู้ ไปประยุกต์ ใช้ ไม่ ได้ (Bransford, Brown
& Cocking, 2000)
• ในการสอนที่มุ่งให้นักเรียนจ�
ำเนื้อหา สูตร ค�
ำศัพท์
เพื่อน�
ำไปใช้สอบ ถ้านักเรียนบางคนที่ไม่มีพื้นฐานเพียงพอ หรือ
ไม่สนใจในวิชานั้น ๆ อาจเกิดความเบื่อหน่าย ซึ่งสามารถส่งผล
กับการสร้างแรงบันดาลใจในการเรียน และ การไม่เข้าเรียนของ
นักเรียน
• ข้อสอบแบบมีตัวเลือก ส่วนใหญ่จะวัดการเรียนรู้ได้
ในระดับความจ�
ำและความเข้าใจ ท�
ำให้ผู้เรียนไม่ได้รับการเสริม
ศักยภาพการคิดขั้นสูง (higher-order thinking) การฝึกฝน
ท�
ำข้อสอบจึงส่งผลต่อความเข้าใจที่ผิวเผินของนักเรียน ไม่ลึกซึ้ง
และไม่คงทน (McTighe, 2004; 2011)
การเรียนรู้จากการท�
ำข้อสอบ ไม่ได้มีผลเชิงลบไปทั้งหมด
การเรียนรู้จากการฝึกฝนท�
ำโจทย์ มีประโยชน์หลายด้าน ไม่ว่า
จะเป็นการช่วยให้นักเรียนได้ตรวจสอบความเข้าใจของตนเอง
ได้ทบทวนเนื้อหาที่ได้เรียนไป ได้จัดระบบความคิดและเชื่อมโยง
เนื้อหาต่าง ๆ เข้าด้วยกัน และได้ท�
ำความคุ้นเคยกับลักษณะ
ข้อสอบ อีกทั้ง ในการสอนหัวข้อบางหัวข้อ อาจจ�
ำเป็นต้องมีการ
ให้นักเรียนได้ฝึกฝนท�
ำโจทย์เพื่อการเสริมสร้างทักษะพื้นฐาน เช่น
ในวิชาคณิตศาสตร์ ก่อนจะน�
ำไปใช้ในการเรียนรู้เนื้อหาในวิชา
อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
แต่ทั้งนี้ ถ้า “การสอนเพื่อท�
ำข้อสอบ” ใช้เวลาในชั้นเรียน
เพื่อมุ่งให้ความรู้ในลักษณะบรรยายและฝึกฝนท�
ำข้อสอบ เป็น
เวลาส่วนใหญ่ของภาคเรียน หรือ ตลอดภาคเรียน ผู้สอนและ
นักเรียนจะมีแนวโน้มที่จะท�
ำทุกอย่าง เพื่อการได้ผลคะแนนที่ดี
ขึ้น ไม่ว่าจะแลกด้วยการเรียนรู้ที่น่าเบื่อ ไม่ส่งเสริมความคิด
สร้างสรรค์ หรือ เชื่อมโยงกับชีวิตจริงของนักเรียน และ อาจ
ละเลยส่วนต่าง ๆ ที่ส�
ำคัญในการพัฒนานักเรียน ดังที่ได้กล่าวมา
แล้วข้างต้น ถึงแม้ “การสอนเพื่อท�
ำข้อสอบ” อาจจะส่งผลถึง
คะแนนที่เพิ่มสูงขึ้นของนักเรียนในระยะสั้น แต่ในระยะยาว เมื่อ
นักเรียนที่เข้าไปสู่การเรียนต่อในระดับสูง หรือ เข้าไปสู่ชีวิตการ
ท�
ำงาน อาจจะประสบปัญหาหลายด้าน ทั้งทางด้านพฤติกรรม
แรงบันดาลใจ ทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือ บุคลิกภาพ ที่
ขาดการใส่ใจให้เกิดการพัฒนาในช่วงเวลาที่เหมาะสม ดังนั้น
“การสอนเพื่อท�
ำข้อสอบ” จึงควรมีการพิจารณาให้รอบคอบก่อน
จะน�
ำมาใช้ในชั้นเรียน