Table of Contents Table of Contents
Previous Page  46 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 46 / 62 Next Page
Page Background

46

นิตยสาร สสวท

ความจริงวิทยาการด้านผลึกวิทยารังสีเอกซ์ ได้

ถือก�ำเนิดเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1912 เมื่อสองพ่อลูกชื่อ

William Bragg กับ Lawrence Bragg พบโครงสร้างโมเลกุลของ

เกลือแกง (NaCl) ว่าประกอบด้วยอะตอมโซเดียมกับอะตอม

คลอรีนอยู่สลับกันที่มุมทั้งแปดของลูกบาศก์ โดยได้วิเคราะห์

จุดสว่างที่ปรากฏบนแผ่นฟิล์ม หลังจากที่ได้รับรังสีเอกซ์ซึ่งได้

สะท้อนจากระนาบอะตอมในผลึก ตามเงื่อนไข

= 2

d

sin

θ

เมื่อ

n

คือ จ�ำนวนเต็มบวก เช่น 1, 2, 3...

λ

คือ ความยาวคลื่นของรังสีเอกซ์

d

คือ ระยะห่างระหว่างระนาบอะตอมในผลึก

และ

θ

คือ มุมระหว่างระนาบอะตอมกับรังสีเอกซ์

ที่ตกกระทบ

ในปีต่อมา สองพ่อลูกก็ได้พบอีกว่า เพชรประกอบ

ด้วยอะตอมคาร์บอนล้วนๆ และอะตอมวางตัวที่มุมของ

โครงสร้างรูปทรงสี่หน้า (tetrahedron) โดยมีอะตอมคาร์บอน

อีกหนึ่งอะตอมอยู่ที่ศูนย์กลางของรูปทรงนั้น

ผลงานเหล่านี้ท�ำให้สองพ่อลูกได้รับรางวัลโนเบล

สาขาฟิสิกส์ประจ�ำปี 1915 ร่วมกัน

วิวัฒนาการของวิทยาการนี้ปรากฏว่า ในปี ค.ศ. 1924

John Desmond Bernal ใช้เทคนิคเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์ศึกษา

โครงสร้างของแกรไฟต์ (graphite) และพบว่า อะตอมคาร์บอน

อยู่เรียงกันเป็นที่มุมของรูปหกเหลี่ยมด้านเท่าที่เรียงซ้อนกัน

เป็นชั้นๆ

ในปี ค.ศ. 1937 James Summer พบว่า โมเลกุล

โปรตีนสามารถตกผลึกได้ ผลงานนี้ท�ำให้ได้รับรางวัลโนเบล

สาขาเคมีปี 1946

ในปี ค.ศ. 1945 Dorothy Hodgkin พบโครงสร้าง

ของ penicillin ซึ่งเป็นโมเลกุลที่มีโครงสร้างซับซ้อนมากโดยใช้

เทคนิคการเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์ ผลงานนี้ท�ำให้เธอได้รับรางวัล

โนเบลสาขาเคมีปี 1964

ในปี ค.ศ. 1952 Rosalind Franklin ใช้เทคนิคการเลี้ยว

เบนรังสีเอกซ์ถ่ายภาพของโมเลกุล DNA ได้ และ Francis Crick,

James Watson กับ Maurice Wilkins ได้ใช้ภาพถ่ายนี้แสดง

ให้เห็นว่า DNA มีโครงสร้างแบบเกลียวคู่ ผลงานนี้ท�ำให้ Crick,

Watson และ Wilkins ได้รับรางวัลโนเบลสาขาแพทย์ศาสตร์

ร่วมกันประจ�ำปี 1962

ในปี ค.ศ. 1958 John Kendrew กับ Max Perutz

พบโครงสร้างของ myoglobin และ hemoglobin และร่วมกัน

รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีปี 1962

ในปี ค.ศ. 1982 D. Shectmann พบผลึกควอไซ

(quasicrystal) ที่อะตอมอยู่เรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ

แต่ในภาพรวมเป็นรูปแบบที่ไม่เหมือนเดิม ผลงานนี้ท�ำให้ได้รับ

รางวัลโนเบลสาขาเคมีประจ�ำปี 2011

ถึงปี ค.ศ. 2000 Venkatraman Ramakrishnan,

Thomas Steiz และ Ada Yonath พบโครงสร้างผลึกของ

ribosorne ซึ่งเป็นโปรตีนที่อยู่ภายในเซลล์ ผลงานนี้ท�ำให้

คนทั้งสามได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีปี 2009

ในปี ค.ศ. 2012 ยานส�ำรวจ Curiosity ได้ถูกส่งไป

วิเคราะห์องค์ประกอบของหิน และดินบนดาวอังคารโดยใช้

เทคนิคการเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์ นี่จึงเป็นการทดลองผลึกวิทยา

รังสีเอกซ์ที่กระท�ำนอกโลกเป็นครั้งแรก

ลุถึงปี ค.ศ. 2013 เทคนิคผลึกวิทยารังสีเอกซ์

ได้เปิดเผยโครงสร้างของโปรตีนที่เชื้อ HIV ใช้ในการบุกรุกและ

ท�ำร้ายเซลล์ภูมิคุ้มกัน

การศึกษาประวัติการมอบรางวัลโนเบลหลายรางวัล

แสดงให้เห็นว่าเป็นของนักเคมีผู้พบโครงสร้าง 3 มิติที่ซับซ้อน

ของชีวโมเลกุล เพราะวงการวิทยาศาสตร์ ตระหนักดีว่ า

สมบัติกายภาพ และสมบัติชีวภาพของโมเลกุลทุกโมเลกุล

ขึ้นกับโครงสร้าง ดังนั้น การรู้โครงสร้างของโมเลกุลจะน�ำไปสู่

การสร้างวัสดุชนิดใหม่ ยาขนานใหม่ และวิธีใหม่ๆ ในการรักษา

โรคร้าย เช่น Ebola, มะเร็ง หรือเอดส์ได้ ด้วยเหตุนี้การรู้โครงสร้าง

ของชีวโมเลกุลจึงได้กลายเป็นเป้าหมายที่ Hauptman และ Karle

ตั้งใจจะท�ำให้ได้เมื่อ 60 ปีก่อน โดยการน�ำความรู้ฟิสิกส์ และ

คอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้เป็นพื้นฐานในการสร้างภาพ 3 มิติ

ของโมเลกุล

เพราะคนทั้งสองรู้ดีว่า ภาพการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์

จะบอกเฉพาะความเข้มของรังสี ซึ่งขึ้นตรงกับแอมพลิจูดของ

รังสียกก�ำลังสองเท่านั้น แต่ไม่ขึ้นกับเฟสของคลื่น เพราะไม่มี

ใครรู้เฟสของคลื่น ดังนั้น ในสมัยก่อนการวิเคราะห์โครงสร้าง