

49
ปีที่ 44 ฉบับที่ 202 กันยายน - ตุลาคม 2559
จากการที่ผู้เขียนได้น�ำเทคนิควิธีการสัมภาษณ์
เชิงลึกของ Rita (1999) ไปประยุกต์ใช้ร่วมกับการสัมภาษณ์
เชิงลึกใน 3 ขั้นตอน ได้พบว่าเป็นวิธีการที่ดีในการช่วยให้
ผู้สัมภาษณ์ได้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น โดยสามารถชักจูงผู้ให้
สัมภาษณ์ตอบอย่างละเอียดและลึกในหัวข้อที่ผู้สัมภาษณ์
ต้องการ นอกจากนี้ผู้เขียนยังได้พบประสบการณ์หลายรูปแบบ
จากการลงมือปฏิบัติ ซึ่งได้แก่ การเริ่มต้นสัมภาษณ์ด้วย
หัวข้อที่ท�ำให้ผู้ให้สัมภาษณ์รู้สึกสบาย ถามค�ำถามที่เกี่ยวข้อง
กับชีวิตของผู้ให้สัมภาษณ์ สิ่งแวดล้อมในโรงเรียน อาจเป็น
จุดเริ่มต้นที่ดีส�ำหรับการสนทนา เวลาที่เหมาะสมส�ำหรับการ
สัมภาษณ์ก็ถือเป็นสิ่งส�ำคัญ ควรนัดหมายครูผู้ให้สัมภาษณ์
ล่วงหน้าเพื่อจัดตารางสอนไว้ก่อนและควรเป็นช่วงเช้าก่อน
การจัดการเรียนการสอน เพื่อหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้าจาก
การสอน ควรให้ผู้เข้าร่วมสังเกตการสัมภาษณ์เพื่อช่วยนักวิจัย
ในการจับภาพภาษาและพฤติกรรมคอยตรวจสอบการสัมภาษณ์
ครบประเด็นหรืออาจถามประเด็นเพิ่มเติมในภายหลัง บางครั้ง
ผู้ให้สัมภาษณ์อาจให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันในระหว่างการสัมภาษณ์
นักวิจัยจึงควรสรุปยืนยันความคิดของเขาให้ฟังอีกครั้ง
โดยอาจส่ง บทสัมภาษณ์ให้แก่ผู้ให้สัมภาษณ์เพื่ออ่านตรวจ
ทบทวนผลการให้สัมภาษณ์เพื่อดูว่าการตีความของนักวิจัย
ส่วนใดที่ผิด ถ้าการตีความผิด ก็ควรแก้ไขรับรองส�ำเนาถูกต้อง
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงและน่าเชื่อถือด้วย
บรรณานุกรม
Rita S. Y. Berry (1999). Collecting data by in-depth interviewing. Retrieved June 7, 2016,
from
http://www.leeds.ac.uk/educol/documents/000001172.htm.การสัมภาษณ์. สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2559, จาก
http://www.ipecp.ac.th/ipecp/cgi-binn/webpili/unit5/level5-4.html.การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก. สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2559, จาก
http://home.kku.ac.th/korcha/int3.html.กิติพัฒน์ นนทปัทมะดุลย์. (2554). เครื่องมือในการเก็บข้อมูลวิจัยเชิงคุณภาพและการสนทนากลุ่ม (Focus Group Study).
สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2559, จาก
http://www.priv.nrct.go.th/ewt_dl.php?nid=896.มานพ คณะโต. (2550).
วิธีวิทยาการวิจัยเชิงคุณภาพในระบบสุขภาพชุมชน
. ขอนแก่น: เครือข่ายพัฒนาวิชาการและข้อมูลสารเสพติด
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
การสัมภาษณ์เชิงลึกเป็นการติดต่อสื่อสารโดยตรง
ระหว่างผู้สัมภาษณ์และผู้ให้สัมภาษณ์ สามารถท�ำให้เข้าใจ
ข้อมูลระหว่างกันและกันได้ตรงกัน ถ้ามีความเข้าใจผิด
ก็สามารถแก้ไขได้ทันที จึงมีลักษณะยืดหยุ่นมาก สามารถ
น�ำไปดัดแปลงและแก้ไขค�ำถามจนกว่าผู้ตอบจะเข้าใจค�ำถาม
และสามารถใช้วิธีการสังเกตด้วยว่าผู้ตอบมีความจริงใจกับการ
ตอบหรือไม่ แต่ยังคงมีข้อจ�ำกัด คือ ผู้ให้สัมภาษณ์อาจลืม
เล่าบางเรื่อง หรือคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาหรือไม่ส�ำคัญอย่างที่
ผู้สัมภาษณ์มองเห็น ก็จะไม่เอ่ยถึง ท�ำให้เกิดการละทิ้ง
รายละเอียดต่างๆ ไปมาก เป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย (ใช้เวลา
งบประมาณ และพลังงานมาก) ส่วนข้อมูลที่ได้จากการ
สัมภาษณ์จะเชื่อถือได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือและ
ความเต็มใจของผู้ให้สัมภาษณ์ ความส�ำเร็จในการเก็บข้อมูล
วิธีนี้จึงขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้สัมภาษณ์ โดยผู้สัมภาษณ์
ต้องไม่มีอคติต่อผู้ ให้สัมภาษณ์และเรื่องที่ไปสัมภาษณ์
เพราะถ้าการสัมภาษณ์ขึ้นอยู่กับสภาพของอารมณ์อาจส่งผล
ให้เกิดการบิดเบือน จนขาดความน่าเชื่อถือได้
ปัจจุบันการสัมภาษณ์เชิงลึกได้ถูกน�ำมาใช้อย่าง
แพร่หลาย และถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการได้
มาซึ่งข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการตรวจสอบและติดตามค�ำตอบ
นักวิจัยที่ต้องการจะใช้วิธีการนี้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลควร
ได้รับค�ำแนะน�ำก่อนเดินทางไป ท�ำความเข้าใจเทคนิคนี้ด้วย
ตัวเอง ควรจะมีไหวพริบและให้ความยืดหยุ่นในสถานการณ์
การสัมภาษณ์ที่อาจแตกต่างกัน อย่างไรผู้อ่านก็ลองน�ำเทคนิค
การสัมภาษณ์เชิงลึกเหล่านี้ไปใช้กันก็ดีนะคะ