Previous Page  40 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 40 / 62 Next Page
Page Background

40

นิตยสาร สสวท.

นี้ ธนาคารหรือสำ

�นักงานปรมาณู อาจจะต้องใช้เจ้าหน้าที่ระดับ

สูงสองคนหรือมากกว่าสองคน และแบ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ

รหัสผ่านที่เป็นความลับนี้ออกเป็นส่วน ๆ แล้วมอบให้ผู้บริหาร

ระดับสูงหรือผู้มีสิทธิ์เข้าถึงรหัสผ่านเหล่านี้ถือไว้เป็นความ

ลับคนละส่วน เมื่อต้องการสร้างรหัสผ่านนี้ ทุกคนที่ถือข้อมูล

แต่ละส่วนต้องรวมตัวกันป้อนข้อมูลส่วนที่ตัวเองถืออยู่เข้าไปใน

คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะคำ

�นวณหารหัสผ่านที่เป็นความลับ

ซึ่งสามารถทำ

�ให้เปิดตู้นิรภัยหรือสั่งยิงจรวดได้

คำ

�ถามที่สำ

�คัญคือ “ระบบดังกล่าวนี้มีความปลอดภัยพอ

เพียงหรือไม่” ความปลอดภัยจะมากขึ้น ถ้าให้จำ

�นวนคนที่มี

อำ

�นาจหน้าที่รับผิดชอบข้อมูลมีจำ

�นวนมากขึ้น ปัญหาที่ตามมา

ก็คือถ้าเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนใดคนหนึ่งเกิดลืมข้อมูลความลับ

ส่วนของตัวเอง หรือเกิดป่วย หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต จะเป็นไป

ได้หรือไม่ที่จะเปิดตู้นิรภัยหรือสั่งยิงจรวดได้

ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการสร้างระบบแบ่งปันความ

ลับในรูปที่เรียกว่า

ระบบ t–ใน–n (t–out of–n)

สมมุติว่า K คือ

ความลับ เราจะแบ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความลับ K ออกเป็น

n ส่วน (เรียกแต่ละส่วนว่า share) มอบแต่ละส่วนให้เจ้าหน้าที่

ระดับสูงถือไว้เป็นความลับ และเมื่อนำ

�ส่วนของข้อมูลความลับ

t ส่วนใด ๆ ใน n ส่วนนี้มาประกอบกัน จะสามารถสร้างหรือ

คำ

�นวณหาความลับ K ได้ แต่ถ้ามีข้อมูลความลับน้อยกว่า t ส่วน

จะไม่สามารถล่วงรู้ถึงความลับ K ได้ สมบัติที่สำ

�คัญของระบบ

แบ่งปันความลับนี้คือ

• t ต้องน้อยกว่า n ดังนั้นไม่จำ

�เป็นต้องใช้ข้อมูลความลับ

ครบทุกส่วน

• สามารถใช้ t ส่วนใด ๆ สร้างรหัสลับ K ได้

• ถ้าใช้น้อยกว่า t ส่วน จะไม่ทำ

�ให้ล่วงรู้ข้อมูลเกี่ยวกับรหัส

ลับได้เลย

ปัญหาคือจะสร้างระบบดังกล่าวได้อย่างไร ในที่นี้จะนำ

�เสนอ

วิธีสร้างที่ง่าย ๆ ใช้เพียงความรู้ที่เรียนในระดับมัธยมศึกษาก็

เพียงพอ

การสร้างระบบรักษาความปลอดภัยในรูปแบบ 2-ใน-n

ระบบรักษาความปลอดภัยที่ง่ายที่สุด คือระบบที่ใช้สมการ

เส้นตรงในระนาบ xy ให้เป็นประโยชน์ เมื่อ n แทนจำ

�นวนเต็ม

บวกใด ๆ เราสามารถสร้างระบบแบ่งปันความลับในรูปแบบที่

เรียกว่า 2–ใน–n ดังนี้

1. เลือกคู่อันดับ (r, s) ซึ่งสามารถแทนด้วยจุดในระนาบ xy

ให้เป็นความลับ K

2. เลือกเส้นตรง L ซึ่งผ่านจุด (r, s) สมการของเส้นตรงนี้

ไม่เป็นความลับ สามารถประกาศให้สาธารณะรู้ได้ แต่จุด (r, s)

ต้องเก็บเป็นความลับ

3. เลือกเส้นตรง M อีกเส้นหนึ่งซึ่งตัดกับเส้นตรง L ที่จุด (r, s)

สมการของเส้นตรงนี้ต้องเก็บเป็นความลับ

4. เลือกจุด n จุด ที่อยู่บนเส้นตรง M ที่ไม่ใช่จุด (r, s) จุด

เหล่านี้จะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับความลับ K ที่จะแบ่งปันให้กับเจ้า

หน้าที่ระดับสูง n คน เก็บไว้คนละจุด แต่ละคนจะต้องเก็บส่วน

ข้อมูลที่ตัวเองได้รับแบ่งปันไว้เป็นความลับไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้

จะเห็นว่าเส้นตรง L ในข้อ 2 ที่ผ่านจุด (r, s) มีจำ

�นวน

มากมายนับไม่ถ้วน เราสามารถเลือกเส้นตรง L ได้โดยกำ

�หนด

ความชัน m ของเส้นตรง L แล้วใช้สูตร y – y

1

= m(x – x

1

)

สำ

�หรับหาสมการเส้นตรงที่ผ่านจุด (x

1

, y

1

) และมีความชัน m

ตามที่กำ

�หนด ในทำ

�นองเดียวกัน เราสามารถหาเส้นตรง M ใน

ข้อ 3 ที่ผ่านจุด (r, s) เดียวกันได้ โดยกำ

�หนดความชันของเส้น

ตรง M ให้แตกต่างจากความชันของเส้นตรง L มิฉะนั้นจะเป็นเส้น

ตรงเดียวกันกับ L การคำ

�นวณหาเส้นตรงเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักเรียน

ได้เรียนมาแล้วตั้งแต่ระดับมัธยม การสร้างระบบแบ่งปันความ

ลับแบบ 2–ใน–n จึงเป็นตัวอย่างการประยุกต์ใช้ได้เป็นอย่างดี

เมื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงสองคนใด ๆ ใน n คน ต้องการ

หาความลับ K เขาสามารถใช้จุดสองจุดที่เขาทั้งสองได้รับแบ่ง

ปันเพื่อหาสมการของเส้นตรง M ได้ ถ้าจุดสองจุดนั้นคือจุด

(x

1

, y

1

) และ (x

2

, y

2

) เส้นตรง M ที่ผ่านจุดทั้งสองนี้คือ

1

2

1

2

1

1

x x

y y

xx

y y

-

- =

-

-

……… (1)