Previous Page  23 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 23 / 62 Next Page
Page Background

ดาวฤกษ์หลายดวงมีความสว่างเห็นได้ชัดเจนอยู่บนท้องฟ้า

ในบริเวณใกล้เคียงกัน ทำ

�ให้คนเราเกิดจินตนาการออกเป็นรูป

ของเทพเจ้า รูปสิ่งมีชีวิตหรือวัตถุเครื่องใช้ต่าง ๆ ตามความคิด

คำ

�นึงของกลุ่มชนแต่ละเผ่าพันธุ์มาตั้งแต่สมัยโบราณ ทำ

�ให้เกิด

ประโยชน์ในการหาทิศทาง บอกเวลา บอกฤดูกาล การกำ

�หนด

วัน อีกด้วย

ในปัจจุบันนี้ดวงดาวบนท้องฟ้าได้แบ่งออกเป็น 88 กลุ่ม

ดาว กลุ่มดาวที่เรารู้จักกันดีและควรรู้จักมีอยู่หลายกลุ่ม เช่น

กลุ่มดาวค้างคาว กลุ่มดาวจระเข้ กลุ่มดาวเต่าหรือกลุ่มดาว

นายพราน กลุ่มดาวในจักรราศี ซึ่งเราได้นำ

�กลุ่มดาวเหล่านี้มา

เป็นตัวอย่างในกิจกรรมด้วย

กลุ่มดาวจระเข้

นั้นจะสังเกตง่ายทางทิศเหนือ กลุ่มดาว

จระเข้ประกอบด้วยดาวฤกษ์อย่างน้อย 7 ดวง ซึ่งคนไทยเห็น

เป็นรูปจระเข้ คือดาว 4 ดวงแรก เป็นลำ

�ตัวจระเข้ อีก 3 ดวง

ที่เหลือเป็นหางจระเข้ ส่วนชาวจีนเห็นเป็นรูปกระบวยตักน้ำ

ชาวกรีกโบราณเห็นเป็นหมีใหญ่ สำ

�หรับการเรียกชื่อกลุ่มดาว

นั้นก็จะเรียกชื่อแตกต่างกันออกไปตามความเชื่อ วิถีชีวิต และ

วัฒนธรรมนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ชาวยุโรปซึ่งใช้ชีวิตบนภูเขา

มองเห็นเป็นรูป

"หมีใหญ่" 

แต่คนไทยใช้ชีวิตอยู่ริมน้ำ

� จึงมอง

เห็นเป็นรูป

"จระเข้"

เรื่องเด่น

ประจำ

�ฉบับ

ลลิดา อ่ำ

�บัว

นักวิชาการ สาขาโลก ดาราศาสตร์ และ อวกาศ สสวท. / e-mail :

lumbu@ipst.ac.th

คู่กันแล้ว

ไม่แคล้วกัน

(กลุ่มดาว)

ตั้งแต่สมัยโบราณกาลคนมี

ความผูกพันกับดวงดาวต่าง ๆ

บนท้องฟ้า เพราะคนเราใช้ชีวิต

ประจำ

�วัน เกี่ยวข้องกับดวงดาว

เช่นใช้ดวงดาวบอกทิศในการ

เดินทาง ใช้ดวงดาวมาทำ

�นาย

โชคชะตา อีกทั้งดวงดาวยังนำ

มาถ่ายทอดพรรณนา ออกมา

เป็นกาพย์ กลอนของสมเด็จ

พระพุทธเลิศหล้านภาลัยในบท

ละครเรื่องอิเหนา หรือในบทกวี

อันไพเราะ ของสุนทรภู่ในเรื่อง

พระอภัยมณี

ภาพที่ 1

กลุ่มดาวจระเข้

ที่มา : ดัดแปลงจาก The LESA Project 2003

(www.lesaproject.com

)

ปีที่ 41

|

ฉบับที่ 183

|

กรกฎาคม-สิงหาคม 2556

23