Previous Page  12 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 12 / 62 Next Page
Page Background

m

m

0

x

=

m

m

m

mg x k

=

2

mg x k

=

h

(a)

(b)

(c)

(d)

(e)

จากรูป

(a) ปล

อยวัตถุที่ตำแหน

งสูง

h

จากปลายสปริง

(b) วัตถุกำลังเคลื่อนที่ผ

านตำแหน

งสมดุลแรง

x=mg/k

แต

ไม

หยุดนิ่งที่ตำแหน

งนี้

เพราะยังมีสภาพเฉื่อยก

อนเข

าสู

สมดุลแรง

(c) วัตถุหยุดนิ่งที่ตำแหน

งต่ำสุด ซึ่งไม

ใช

x=mg/k

แต

เป

นที่ตำแหน

x=2mg/k+

(d) วัตถุเคลื่อนที่ขึ้นผ

านตำแหน

งสมดุล

(e) ในกรณีที่มวลติดกับปลายสปริง มวลจะเคลื่อนที่ขึ้นไปหยุดที่ระยะยืดของสปริงเท

ากับ

ในกรณีที่มวลไม

ติดกับปลายสปริง มวลก

อนดังกล

าวก็จะขึ้นมาหยุดที่ตำแหน

งปล

อยในรูป (a) นั่นเอง

พื้น

สมมติว

ามวล m

ติดกับปลายสปริง

หลังสัมผัสกับสปริง

แรง (

mg x

k

=

) เช่นเดิม แต่แอมพลิจูดการสั่นจะเปลี่ยนเป็น

mg

k

 

นั่นคือสั่นแรงขึ้นด้วยระยะ

ดังนั้นต�

าแหน่งต�่

าสุดที่

ก้อนมวลลงไปได้คือ

2

mg x

k

  

(แต่ถ้าก้อนมวลไม่ติดกับปลายสปริง ก้อนมวลก็จะเคลื่อนที่กลับมาที่ต�

าแหน่งที่ปล่อย)

สรุป

สปริงตั้งอยู่ในแนวดิ่ง มีค่านิจสปริงเป็น

k

N/m ปล่อยก้อนมวล

m

จากระยะสูง

h

วัดจากปลายด้านบนของสปริง ก้อนมวล

m

ตกลงที่ปลายสปริงและอัดสปริงลงไป สปริงจะหดสั้นมากที่สุดเป็นระยะเท่ากับ

mg x

R

k

= ±

โดยที่

2

2

mg

mgh

R

k

k

 

  

 

ถ้ามวลติดไปกับปลายสปริงหลังสัมผัส และเราอาจเขียน

mg R

k

  

เราจะได้ว่าก้อนมวลสั่นอยู่ในช่วง

mg mg

x

k

k

    

นั่นคือเป็นการสั่นรอบ ๆ ต�

าแหน่ง

mg x

k

=

ด้วยแอมพลิจูด

mg

k

 

นิตยสาร สสวท.

12