Previous Page  20 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 20 / 62 Next Page
Page Background

ต�่

าสุดจึงเป็นเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ที่ส�

าคัญอีกหนึ่งอย่าง

ของวิศวกรที่สามารถช่วยในการหาว่าวิธีการแก้ปัญหาใดจะ

ท�

าให้ได้ค่า optimum value หรือค่าที่เหมาะสมที่สุดส�

าหรับ

ปัญหาหนึ่ง ๆ ยกตัวอย่างการใช้ค่าอนุพันธ์ช่วยในการหาค�

ตอบของปัญหาในชีวิตประจ�

าวัน เช่น หากมีแผ่นอะลูมิเนียม

รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสความยาวด้านละ 10 นิ้ว และต้องการตัดมุม

ทั้งสี่ออกไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดเท่ากัน เพื่อพับและ

เชื่อมแผ่นอะลูมิเนียมส่วนที่เหลือเป็นภาชนะรูปทรงสี่เหลี่ยม

มุมฉากเปิดด้านบน ควรตัดรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสตรงมุมทั้งสี่ออก

ไปให้มีขนาดเท่าใดจึงจะได้ความจุของภาชนะมากที่สุด

เราสามารถหาความยาว

ของด้านของสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่

ต้องตัดออกได้ ด้วยการก�

าหนด

ให้ความยาวด้านของรูปสี่เหลี่ยม

จัตุรัสที่ต้องการตัดออกเป็น x

หน่วยแล้ว เขียนฟังก์ชัน f(x)

ของปริมาตรภาชนะได้เป็น

f(x) = x(10-2x)

2

f(x)

= 4x

3

– 40x

2

+ 100x

เมื่อหาอนุพันธ์แล้วจะได้

f

´

(x) = 12x

2

– 80x + 100

จากนั้นหาต�

าแหน่งของค่า x ที่ท�

าให้ค่าอนุพันธ์ f

´

(x) หรือ

ค่าความชันของกราฟฟังก์ชัน f(x) เป็นศูนย์ จะได้ค�

าตอบว่า

ค่าวิกฤตของฟังก์ชัน f(x) คือ x =

2

1

3

นั่นคือควรตัดมุมของ

แผ่นอะลูมิเนียมออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสความยาวด้านละ

2

1

3

นิ้ว จะได้ภาชนะอะลูมิเนียมที่มีความจุมากที่สุด

จากหลักการเดียวกันนี้วิศวกรสามารถใช้การหาค่าอนุพันธ์

ช่วยในการออกแบบสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้ม

ค่าที่สุดจากทรัพยากรที่มีอยู่ได้

อย่างไรก็ดีการแก้ปัญหาทางวิศวกรรมในส่วนของสะเต็ม

ศึกษานั้น ไม่จ�

าเป็นจะต้องเป็นปัญหาระดับสูงที่วิศวกรมีหน้า

ที่แก้ปัญหาในการท�

างานจริง แต่อาจเป็นปัญหาในชีวิตประจ�

วันซึ่งสามารถใช้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยี ช่วยในการแก้ปัญหา โดยในการแก้ปัญหาทาง

วิศวกรรมนั้นอาจไม่จ�

าเป็นต้องใช้ความรู้ทั้งทางวิทยาศาสตร์

คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี พร้อมกันทั้งหมด แต่อาจเลือก

ใช้เพียงบางด้านก็ได้ ดังนั้นนักเรียนก็สามารถแก้ปัญหาทาง

วิศวกรรมได้ หากมีการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

หรือเทคโนโลยีมาช่วยในการแก้ปัญหาอย่างมีกระบวนการ

โดยไม่ได้ใช้วิธีลองผิดลองถูกแต่เพียงอย่างเดียว

จากตัวอย่างทั้งหมดในบทความนี้ คงแสดงให้เห็นแล้ว

ว่าคณิตศาสตร์มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดต่อวิชาวิทยาศาสตร์

เทคโนโลยี และการออกแบบทางวิศวกรรมในกลุ่มวิชาสะเต็ม

ศึกษาเพียงใดและคงท�

าให้เห็นว่าวิชาคณิตศาสตร์ที่ดูเหมือน

เป็นเรื่องนามธรรมและห่างไกลจากชีวิตจริงนั้น แท้แล้วกลับ

เป็นเครื่องมือส�

าคัญในการศึกษาวิชาความรู้ด้านต่าง ๆ รวม

ทั้งการน�

าไปใช้ในการแก้ปัญหาอย่างขาดไปไม่ได้เลยทีเดียว

x

x

10 นิ้ว

10 นิ้ว

บรรณานุกรม

Bybee, R. W. (2011). Scientific and Engineering Practices

in K-12 Classrooms: Understanding A Framework for

K-12 Science Education.

Science Teacher

,

78

(9), 34-40.

Katehi, L., Pearson, G. & Feder, M. (2009).

Engineering in

K-12 Education: Understanding the Status and

Improving the Prospects

. Washington, D.C.: National

Academies Press.

Sanders, M. (2009). STEM, STEM Education, STEMmania.

The Technology Teacher

,

68

(4), 20-26.

Williams, J. (2011). STEM Education: Proceed with

Caution.

Design and Technology Education: An

International Journal

.

16

(1), 26-35.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. กระทรวง

ศึกษาธิการ. (2552).

หนังสือเรียนรำยวิชำพื้นฐำนเทคโนโลยี

สำรสนเทศและกำรสื่อสำร ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1

. กรุงเทพมหานคร :

โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. กระทรวง

ศึกษาธิการ. (2554).

หนังสือเรียนรำยวิชำเพิ่มเติมคณิตศำสตร์

เล่ม 6 ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 4-6

. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์

สกสค. ลาดพร้าว.

นิตยสาร สสวท.

20