Previous Page  6 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 6 / 62 Next Page
Page Background

6

นิตยสาร สสวท.

เมื่อท�

ำกิจกรรมเสร็จแล้วให้น�

ำโครงสร้างดอกที่รับประทาน

ได้มาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วเติมน�้

ำสลัดท�

ำเป็นสลัดผักที่สามารถ

รับประทานได้จริง อาจเพิ่มผักและผลไม้ลงไปได้ตามความชอบ

(ภาพที่ 3)

ภาพที่ 3 สลัดผักที่ได้จากโครงสร้างของดอกที่รับประทานได้

การน�

ำสื่อไปใช้ในการจัดการเรียนรู้

ผู้สอนสามารถน�

ำกิจกรรมการผลิตสื่อโครงสร้างของดอกจาก

ห้องครัว มาใช้ในการจัดการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างของดอกที่แบ่ง

ตามต�

ำแหน่งของรังไข่ได้ โดยเริ่มจากผู้สอนมอบหมายล่วงหน้าให้

นักเรียนน�

ำวัสดุและอุปกรณ์ ผักผลไม้ที่จะใช้ในกิจกรรมผลิตสื่อ

โครงสร้างของดอก รวมทั้งดอกไม้จริงชนิดต่าง ๆ มาศึกษา เช่น

บานบุรี พริก กล้วย เข็ม ต�

ำลึง พุทธรักษา มะลิ มะเขือ มะละกอ

ฝรั่ง หากในท้องถิ่นของนักเรียนไม่สามารถหาผักผลไม้ที่ก�

ำหนด

มาในรายการวัสดุและอุปกรณ์ ผู้สอนสามารถให้ค�

ำแนะน�

ำกับ

นักเรียนแต่ละกลุ่มก่อนการไปจัดหาซื้อจริงได้ จากนั้นให้แบ่ง

นักเรียนเป็นกลุ่ม แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มประดิษฐ์สื่อโครงสร้าง

ของดอกที่แบ่งตามต�

ำแหน่งของรังไข่ซึ่งแบ่งได้ 2 ประเภท คือ

ดอกที่มีรังไข่เหนือวงกลีบ (superior ovary) และรังไข่ใต้วง

กลีบ (inferior ovary) จากนั้นน�

ำดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ที่เตรียมมา

ผ่าตามยาวให้ผ่านรังไข่ แล้วศึกษาต�

ำแหน่งของรังไข่โดยเปรียบ

เทียบกับสื่อโครงสร้างของดอกที่แต่ละกลุ่มประดิษฐ์ขึ้น พร้อม

ทั้งให้นักเรียนแต่ละคนบันทึกผลการเปรียบเทียบและวาดภาพ

ต�

ำแหน่งของรังไข่ของดอกไม้จริงแต่ละชนิดที่น�

ำมาศึกษา

จากการศึกษานักเรียนควรสรุปได้ว่า ดอกไม้ที่จัดอยู่ในกลุ่ม

เดียวกันนั้นจะต้องมีต�

ำแหน่งของรังไข่อยู่ในต�

ำแหน่งเดียวกัน

เมื่อเทียบกับชั้นวงกลีบอื่น ๆ กล่าวคือ ดอกที่มีรังไข่เหนือวง

กลีบเป็นดอกไม้ที่มีรังไข่ติดอยู่บนฐานดอกในระดับที่เหนือกว่า

ต�

ำแหน่งของวงกลีบเลี้ยง วงกลีบดอก และวงเกสรเพศผู้ ส่วน

ดอกที่มีรังไข่ใต้วงกลีบเป็นดอกไม้ที่รังไข่ติดบนฐานดอกต�่

ำกว่า

ต�

ำแหน่งของวงกลีบเลี้ยง วงกลีบดอก และวงเกสรเพศผู้ (ภาพ

ที่ 1 และ 2)

การเลือกใช้สื่อโครงสร้างของดอกที่แบ่งตามต�

ำแหน่งของ

รังไข่จากห้องครัวเป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้สอนสามารถน�

ำไปใช้ใน

การจัดการเรียนรู้ชีววิทยาในชั้นเรียน ซึ่งนอกจากจะใช้ประกอบ

ในเรื่องการแบ่งประเภทของดอกตามต�

ำแหน่งของรังไข่แล้วอาจ

จะน�

ำไปใช้ประกอบการเรียนรู้เรื่อง

ดอกและส่วนประกอบของ

ดอก

โดยให้นักเรียนเลือกประดิษฐ์ ดอกสมบูรณ์ ดอกไม่สมบูรณ์

ดอกสมบูรณ์เพศ และดอกไม่สมบูรณ์เพศได้ แล้วน�

ำชิ้นงานมา

ส่งผู้สอนพร้อมกับอธิบายว่า ดอกที่เลือกประดิษฐ์นั้นจัดเป็น

ดอกแบบใด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น โดยให้นักเรียนใช้สื่อที่

ประดิษฐ์ขึ้นประกอบการอธิบาย เพื่อทดสอบความรู้ความเข้าใจ

เนื้อหาที่นักเรียนได้เรียนไป นอกจากนี้ยังสามารถประยุกต์ใช้ใน

ขั้นตอนต่าง ๆ ของการจัดการเรียนรู้ เช่น ขั้นน�

ำเข้าสู่บทเรียน

ขั้นสอน หรือขั้นสรุปบทเรียนก็ได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของ

การจัดการเรียนรู้

ทั้งนี้การใช้สื่อประกอบการจัดการเรียนรู้ โดยให้

นักเรียนเป็นทั้งผู้ประดิษฐ์และผู้ใช้สื่อด้วยตนเองนั้น เป็นการ

สร้างองค์ความรู้และประสบการณ์ตรงให้กับนักเรียนผ่านการ

ท�

ำกิจกรรม โดยอาศัยทักษะ และความรู้การจากเรียนมาใช้

แก้ปัญหาในการปฏิบัติจริง รวมทั้งเป็นการฝึกให้นักเรียนได้

คิดวิเคราะห์ เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาที่ได้เรียนรู้ได้มากยิ่งขึ้นด้วย

บรรณานุกรม

Gordon, U., Richard, S. & Randy, M. (2001).

Principles of Botany

. New York:

McGraw-Hill.

คณาจารย์ภาควิชาพฤกษศาสตร์. (2548).

ปฏิบัติการพฤกษศาสตร์ทั่วไป

(พิมพ์ครั้งที่ 4).

กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

ชุมพล คุณวาสี. (2553).

สัณฐานวิทยาเบื้องต้นในการระบุชื่อวงศ์พืชดอกสามัญ

(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: ส�

ำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. กระทรวงศึกษาธิการ. (2554).

หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม ชีววิทยา เล่ม 3 ตามหลักสูตรแกนกลาง

การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร:

โรงพิมพ์ สกสค.ลาดพร้าว.