

1. เลือกมาตรฐานหรือตัวชี้วัด
พิจารณาเลือกมาตรฐานการเรียนรู้หรือตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่สามารถบูรณาการความรู้ไปใช้เพื่อตอบค�
ำถามที่ซับซ้อน แก้ปัญหาหรือ
สร้างสรรค์ชิ้นงานและนวัตกรรมจากสถานการณ์ที่ท้าทายหรือที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง และควรก�
ำหนดวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายการเรียนรู้ให้ชัดเจน
2. พัฒนาค�
ำถาม ระบุประเด็น ปัญหาหรือสถานการณ์
เมื่อก�
ำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้แล้ว ครูควรตั้งค�
ำถาม ก�
ำหนดประเด็นปัญหาหรือการออกแบบสถานการณ์ซึ่งควรเป็นเรื่องที่ท้าทายและ
เชื่อมโยงกับชีวิตจริง ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม
3. บูรณาการความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์
พิจารณาและวิเคราะห์องค์ความรู้ ทักษะหรือกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ ที่จ�
ำเป็นต้องน�
ำมา
ใช้ในการตอบค�
ำถาม การออกแบบ การส�
ำรวจตรวจสอบประเด็นข้อสงสัยการแก้ปัญหาหรือสถานการณ์ที่ท้าทายและเชื่อมโยงกับชีวิตจริง
4. เชื่อมโยงสู่งานอาชีพ
มีการให้รายละเอียดข้อมูลหรือสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานอาชีพทางด้านสะเต็มที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กับหัวข้อหรือเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนรู้
การออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา
5. ออกแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนแบบ 5 E
มีการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติและศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง โดยในขั้นตอนนี้จะยกตัวอย่างการออกแบบ
การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ด้วยรูปแบบ 5 E และมีการประเมินผลจากการปฏิบัติงานเป็นฐาน (performance-based assessments)
โดยมีขั้นตอนการด�
ำเนินการดังนี้
1. การสร้างความสนใจ (Engagement)
บทบาทนักเรียน
บทบาทครู
1) นักเรียนสามารถระบุปัญหาได้อย่างชัดเจนจากประเด็นหรือสถานการณ์ที่
ครูหรือ นักเรียนก�
ำหนดขึ้น
2) นักเรียนระดมความคิดเห็นร่วมกันเพื่อหาค�
ำตอบหรือหาแนวทางในการแก้
ปัญหา
1) ครูควรใช้ค�
ำถามเพื่อน�
ำสู่การก�
ำหนดประเด็นปัญหาหรือสถานการณ์ที่น่าสนใจและท้าทาย
2) ครูน�
ำอภิปรายประกอบการใช้ค�
ำถามเพื่อให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น
ต่อประเด็นปัญหาหรือสถานการณ์
3) ครูใช้ค�
ำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนอยากค้นหาค�
ำตอบโดยการออกแบบและ
ปฏิบัติการด้วยตนเอง
2. การส�
ำรวจตรวจสอบ (Exploration)
บทบาทนักเรียน
บทบาทครู
1) นักเรียนท�
ำงานร่วมกันในการส�
ำรวจ สืบค้นข้อมูล และมีการบูรณาการความรู้
ทักษะหรือกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์
และคณิตศาสตร์
2) นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลและน�
ำมาประกอบการตัดสินใจเลือก
แนวทางการแก้ปัญหา การวางแผนและออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ
3) นักเรียนลงข้อสรุปร่วมกันเพื่อเลือกแนวทางหรือวิธีการซึ่งมีความเหมาะสม
ที่น�
ำมาใช้ในการแก้ปัญหาหรือการหาค�
ำตอบในประเด็นหรือสถานการณ์
ที่ก�
ำหนดให้ และลงมือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ก�
ำหนด โดยมีการวางแผนและ
ออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีและกระบวนการทางวิศวกรรมร่วมด้วย
1) ครูควรก�
ำหนดเงื่อนไขเบื้องต้นก่อนการมอบหมายให้นักเรียนออกแบบและท�
ำการ
ส�
ำรวจตรวจสอบ เช่น เรื่องความส�
ำเร็จของงาน ระยะเวลา วัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น
2) ครูควรส�
ำรวจความรู้พื้นฐานของผู้เรียน
3) ครูควรเป็นผู้ชี้แนะโดยการใช้ค�
ำถามเพื่อน�
ำสู่แนวทางการศึกษาข้อมูลในส่วนที่จ�
ำเป็น
ต้องน�
ำมาใช้ในการแก้ปัญหา การออกแบบ และการสร้างสรรค์และการทดสอบ
ประสิทธิภาพของผลงาน
4) ครูชี้แจงแนวทางในการท�
ำงาน และควรให้นักเรียนแต่ละคนคิดและออกแบบโดยใช้
แนวความคิดของตนเองก่อน ต่อจากนั้นให้นักเรียนภายในกลุ่มวางแผนการท�
ำงานร่วมกัน
โดยการระดมความคิดเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นแนวความคิดของกลุ่ม
5) ครูควรสนับสนุนแหล่งเรียนรู้ สื่อ อุปกรณ์ ประกอบการสืบเสาะหาความรู้และ
การท�
ำงานของนักเรียน
6) ครูควรออกแบบใบกิจกรรมประกอบการเรียนรู้ เป็นแนวทางพอสังเขป เพื่อให้นักเรียน
สามารถบรรลุเป้าหมายตามแนวทางการเรียนรู้ที่นอกจากองค์ความรู้แล้วยังมุ่งเน้นการเรียนรู้
ผ่านกระบวนคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา การวางแผน กระบวนการออกแบบอย่างเป็นระบบ
7) ครูส�
ำรวจการท�
ำงานของนักเรียนแต่ละกลุ่มและกระตุ้นด้วยการใช้ค�
ำถามให้นักเรียน
เกิดแนวคิดในการออกแบบและการตรวจสอบคุณภาพหรือทดสอบประสิทธิภาพของงาน