

12
นิตยสาร สสวท.
กิจกรรมที่ 1.2 ล�
ำแสงของแสงเลเซอร์
หลังจากกิจกรรมที่ 1.1 ให้ผู้สอนเริ่มต้นกิจกรรมที่ 1.2
ด้วยการให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเพื่อตอบค�
ำถามต่อไปนี้
• เมื่อฉายแสงเลเซอร์ไปตกกระทบวัตถุที่อยู่ต�
ำแหน่ง
ไกล ๆ ล�
ำแสง (light beam) ของแสงเลเซอร์จะมีลักษณะ
อย่างไร เบนออก เบนเข้า บีบตัวเล็กลง ขยายออก หรือ
มีขนาดเท่าเดิม
หลังจากการอภิปรายแล้ว ให้ผู้เรียนน�
ำกระดาษ A4 มา
ติดไว้ที่ผนังด้วยเทปใส ส�
ำหรับท�
ำเป็นฉาก จากนั้น ให้สวม
LED สีขาว เข้ากับหลอดดูดที่ถูกตัดครึ่งแล้ว ถัดมา ให้น�
ำ
หลอดดูดที่สวมกับ LED ไปวางไว้บนหนังสือ ใช้เทปใสติด
ให้หลอดดูดยึดแน่นกับหนังสือ ดังภาพที่ 4
ให้น�
ำหนังสือที่มีหลอดดูดกับ LED ไปวางให้ด้านหน้า
กระดาษที่ท�
ำเป็นฉาก ให้ปลายหลอดห่างจากแผ่นกระดาษที่ติด
ไว้กับผนังประมาณ 15 เซนติเมตร ดังภาพที่ 5 จากนั้น ให้ต่อ
LED สีขาวกับแบตเตอรี่ เพื่อให้ล�
ำแสงจาก LED ไปตกกระทบ
ที่แผ่นกระดาษต่อมาให้วัดระยะทางระหว่างปลายของหลอดดูด
กับกระดาษ และวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของแสงจาก LED
ที่ตกกระทบบนแผ่นกระดาษ บันทึกผลในตารางบันทึกผล
ภาพที่ 4 แสดงการน�
ำ LED สวมเข้ากับหลอดดูดที่ตัดครึ่ง
แล้วน�
ำไปติดไว้บนหนังสือด้วยเทปใส
ภาพที่ 5 แสดงการจัดวางวัสดุอุปกรณ์ส�
ำหรับการศึกษาขนาดของล�
ำแสง
ตัวอย่างตารางบันทึกผลกิจกรรมที่ 1.2
ระยะห่างระหว่างแหล่งก�
ำเนิดแสง
กับกระดาษ (cm)
เส้นผ่านศูนย์กลางของแสงเลเซอร์
บนกระดาษ (mm)
เส้นผ่านศูนย์กลางของแสง LED
บนกระดาษ (mm)
ให้ผู้เรียนเปลี่ยนระยะห่างของหลอดดูดจากแผ่นกระดาษอีก
2 ระยะ แต่ไม่เกิน 1 เมตร จากนั้น ปฏิบัติเช่นเดียวกับการวาง
หลอดดูดไว้ที่ระยะ 15 เซนติเมตร
ขั้นตอนต่อไป ให้เปลี่ยนจาก LED สีขาว เป็น LED สีแดง
จากนั้นด�
ำเนินการทดลองในลักษณะเดียวกับ LED สีขาว
เพื่อหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของแสงจาก LED สีแดงที่ตกกระทบ
บนฉากที่ระยะห่างต่างกัน 3 ระยะ บันทึกผล
เปลี่ยนจาก LED สีแดง เป็น เลเซอร์พอยเตอร์ จากนั้นด�
ำเนิน
การทดลองในลักษณะเดียวกัน เพื่อหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง
ของแสงเลเซอร์ที่ตกกระทบบนฉากที่ระยะห่างต่างกัน 3 ระยะ
บันทึกผล
เมื่อผู้เรียนได้ผลจากการท�
ำกิจกรรมแล้ว ให้อภิปรายกันใน
กลุ่มถึงขนาดของแสงที่มาจากแหล่งก�
ำเนิดต่างกัน ที่ตกกระทบ
บนฉากที่ระยะห่างต่าง ๆ กัน จากนั้น ให้ผู้สอนถามผู้เรียนถึง
ข้อสรุปที่ได้ ก่อนจะมีการอภิปรายเพิ่มเติม ซึ่งในท้ายที่สุด
ควรสรุปได้ว่า ถึงแม้แสงเลเซอร์จะให้แสงสีเดียวเหมือนกับแสง
ที่ได้จาก LED สีแดง แต่แสงเลเซอร์ต่างจากแสงจาก LED สีแดง
คือ มีทิศทางเดียวแน่นอน (directionality หรือ collimated)
แม้ในระยะไกล ถ้าไม่มีวัตถุมาขวาง ล�
ำแสงของแสงเลเซอร์จะ
ไม่มีการบานออก หรือ เปลี่ยนทิศทาง
แบตเตอรี่