

ระยะทางเฉลี่ยระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์มีค่าประมาณ 150
ล้านกิโลเมตร นักดาราศาสตร์จึงใช้ความยาวเส้นฐานเป็นสองเท่า
ของระยะทางดังกล่าว หรือประมาณ 300 ล้านกิโลเมตร นั่นเอง
ด้วยเส้นฐานที่ยาวมากขนาดนี้จึงท�
ำให้นักดาราศาสตร์สามารถ
วัดมุมระหว่างเส้นฐานกับเส้นการมองเห็นดาวได้ (ดูภาพ 6 )
และจากนั้นนักดาราศาสตร์ก็จะสามารถค�
ำนวณหาระยะทางจาก
โลกถึงดวงดาวต่อไปได้โดยใช้หลักการของสามเหลี่ยมนี้เป็น
พื้นฐาน
ระยะทางที่หาได้ในที่นี้จะเป็นระยะทางจากดวงอาทิตย์
(กึ่งกลางของเส้นฐาน) ไปถึงดวงดาว แล้วระยะทางจากโลกถึง
ดวงดาวจะหาอย่างไร? ในความเป็นจริงแล้วระยะทางระหว่าง
ดวงดาวกับดวงอาทิตย์กับระยะทางระหว่างดวงดาวดังกล่าวกับ
โลกแทบไม่แตกต่างกัน เพราะในสเกลที่ใหญ่ระดับเอกภพระยะทาง
จากดวงอาทิตย์ถึงโลก (150 ล้านกิโลเมตร) ถือเป็นระยะทางที่
สั้นมาก ดังนั้นสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้นดังภาพ 6 แท้จริงแล้วเป็น
สามเหลี่ยมที่แคบมาก โดยเส้นฐานยาว 1 หน่วย ระยะของ
ดวงดาวจะเป็นหลายแสนหลายล้านเท่าของฐาน จึงสรุปได้ว่า
ระยะทางจากโลกถึงดวงดาวก็มีระยะทางเท่า ๆ กับระยะทาง
จากดวงอาทิตย์ถึงดาวดวงนั้นด้วย
เฉลย ค�
ำถามชวนคิด
:
ปีแสง
ภาพ 6 ภาพวาดแสดงการวัดระยะทางจากโลกถึงดวงดาวโดยใช้หลักการ
สามเหลี่ยมเป็นพื้นฐาน
39.4 3878 .4
000 , 000 , 800 , 460 ,9
000 , 000 , 200 , 512 ,41
≈
=
บรรณานุกรม
Rand, M. & Company. (1971). Measuring distances
indirectly.
Interaction of Earth & Time,
102-105.
Rand, M. & Company. (1971). Measuring distances to stars.
Interaction of Earth & Time
, 365-367.
ผู้จัดการออนไลน์. (4 ตุลาคม 2550). เปิดโผ 10 ที่สุดในจักรวาล.
สืบค้นเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2558, จาก
http://www.electron.
rmutphysics.com/science-news/index.php?option=
com_content&task=view&id=517&Itemid=4&limit=1&
limitstart=2.
นิตยสาร สสวท.
14
น่ารู้
: การหาระยะทางแบบโดยอ้อมนี้อาศัย
ปรากฏการณ์แพรัลแลกซ์ (parallax) โดย
นักดาราศาสตร์หาระยะทางจากโลกถึงดวงดาวได้
จากมุมแพรัลแลกซ์ (มุม p ในภาพ 6) ซึ่งเป็น
ครึ่งหนึ่งของมุมในสามเหลี่ยมใหญ่
(ผู้ ที่สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ จาก
อินเทอร์เน็ตโดยใส่ค�
ำค้นว่า parallax)