Table of Contents Table of Contents
Previous Page  4 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 4 / 62 Next Page
Page Background

4

นิตยสาร สสวท

Q

:

สสวท. กับบทบาทของการพัฒนา

การศึกษาวิทยาศาสตร์ไทยในความคาดหวังของท่าน

A

:

วัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง สสวท. คือ

เพื่อส่งเสริมการสอนคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ

เทคโนโลยีในประเทศไทยให้มีคุณภาพทัดเทียม

นานาชาติ ซึ่งสสวท. ก็ได้ด�

ำเนินการมาด้วยดีจนถึง

ปัจจุบัน และในการเข้ามาด�

ำรงต�

ำแหน่งครั้งที่สามนี้

ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็น สสวท. เปลี่ยนแนวไป

มุ่งที่ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนเป็นเกณฑ์ กล่าวคือ ได้มี

การก�

ำหนดวิสัยทัศน์ล่าสุดของหน่วยงานว่า

“สสวท.

เป็นองค์กรหลักของประเทศที่พัฒนาให้นักเรียนมี

ความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์

และเทคโนโลยี ทัดเทียมนานาชาติ”

และผมตั้งใจว่า

จะช่วยผลักดันอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้สสวท.

บรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้

หากถามว่าบทบาทของ สสวท.จะเป็น

อย่างไร ผมมองว่าขณะนี้บทบาทของ สสวท. ต่อ

การศึกษาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี

ของประเทศดูจะลดน้อยลงกว่าช่วงแรกที่ก่อตั้งสถาบันฯ

เป็นอย่างมาก สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการปฏิรูป

การศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ

พ.ศ. 2542 ที่ท�

ำให้อ�

ำนาจหน้าที่ของสสวท. ไปซ�้

ำซ้อน

กับหลายองค์กรที่เกิดขึ้นใหม่ตามพ.ร.บ.นั้น บทบาท

ของสสวท. ซึ่งเคยเป็นผู้พัฒนาหลักสูตร ต�

ำรา สื่อ

การเรียนการสอนวิธีการเรียนรู้วิธีสอนและประเมินผล

การฝึกอบรมครู ฯลฯ ในลักษณะที่เป็นองค์กรที่

รับผิดชอบการศึกษาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ

เทคโนโลยีแต่ผู้เดียว คือมีลักษณะเป็น

“หน่วยงาน

แห่งชาติ”

ต้องเปลี่ยนมาเป็นผู้ให้บริการรายหนึ่ง

ในวงการนี้ ท�

ำให้การใช้ต�

ำรา สื่อการเรียนการสอน

และเครื่องมือทางการศึกษาต่างๆ ที่สสวท. ได้

พัฒนาขึ้นมีการใช้ทั่วประเทศน้อยลง จากเดิมที่มี

การใช้ในทุกโรงเรียน ลดลงเหลือแค่ประมาณ40-50%

เท่ านั้น แม้ แต่ สื่อทางไกล สื่อดิจิทัลและสื่อ

ออนไลน์ต่างๆ ที่เปิดให้ใช้ฟรี ก็ยังไม่เป็นที่นิยม

เท่าที่ควรจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปนี้สสวท. ต้องมา

ทบทวนว่าจะท�

ำอย่างไร สสวท.จึงจะมีบทบาทใน

การส่งเสริมการศึกษาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์

และเทคโนโลยีได้มากขึ้น ท�

ำอย่างไร สสวท.จึงจะ

สามารถน�

ำหนังสือ สื่อ อุปกรณ์ และโครงการต่างๆ

ที่พัฒนาขึ้นเข้าไปสู่โรงเรียน สู่ครู สู่นักเรียน ได้

มากขึ้น เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถด้าน

วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยีทัดเทียม

นานาชาติสมตามวิสัยทัศน์ที่ก�

ำหนดไว้ได้ เพราะเรา

มั่นใจว่าโดยรวมแล้วเรามีหนังสือ มีต�

ำรา มีสื่อต่างๆ

มีเครื่องมือทางการศึกษา มีวิธีพัฒนาการเรียนรู้

มีวิธีการสอนทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ที่ดีที่สุด

ในประเทศและมีคุณภาพทัดเทียมนานาชาติ ผมตั้งใจที่จะผลักดัน

เรื่องนี้อย่างเต็มที่

Q

:

นโยบายของคณะกรรมการ สสวท. ชุดใหม่นี้มุ่งเน้น

ในด้านใดบ้าง

A

:

หลังจากเข้ารับต�

ำแหน่ง คณะกรรมการ สสวท. ชุดนี้ได้

ด�

ำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนหลายเรื่อง และจากการประชุม 4 ครั้ง

ที่ผ่านมาคณะกรรมการฯ มีความเห็นสอดคล้องกันในประเด็นหลักดังนี้

คือ ต้องการให้ สสวท. มีบทบาทที่ส�

ำคัญในการช่วยยกระดับคุณภาพ

การศึกษาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ของประเทศให้

สูงทัดเทียมนานาชาติ ในการนี้ สสวท.จะต้องขยายผลการใช้ต�

ำรา

หนังสือ สื่อการสอนและการเรียนรู้ต่างๆ อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ

ไปสู่โรงเรียน ครู และนักเรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะท�

ำได้ เพื่อให้นักเรียน

มีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยส�

ำคัญ และการที่จะท�

ำเช่นนี้ได้ สสวท.

ต้องพยายามประสานการท�

ำงานให้เกิดขึ้นกับหน่วยงานหลักทางด้าน

การศึกษาของประเทศ

Q

:

ในวาระครบรอบ 44 ปีของ สสวท. ท่านคิดว่า สสวท.

ควรจะพัฒนาองค์กรให้เข้มแข็งในทิศทางใด

A

:

ผมมีความเห็นว่า ในด้านวิชาการ สสวท. ได้พัฒนาไปใน

ทิศทางที่ถูกต้องแล้ว และมีการพัฒนาที่สอดคล้องกับสภาพของความต้องการ

ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น มีการพัฒนาการเรียนการสอนไปในแนวของ

project-based learning เพื่อฝึกการท�

ำงานแบบบูรณาการทั้งในระดับรายวิชา

ระดับหลายสาขาวิชา ระดับสาขาวิชาร่วม และระดับข้ามสาขาวิชา รวมทั้ง

ฝึกการท�

ำงานเป็นทีม ฯลฯ และในแนว problem-solving เพื่อฝึก

การแก้ปัญหาใหม่ๆ ในอนาคต อันเป็นการเตรียมเยาวชนให้เหมาะกับ

ความต้องการทักษะแรงงานในอนาคต เพราะจะสอนให้เด็กมองปํญหา

ให้ทะลุ ระบุปัญหาให้ชัดเจน จากนั้นก็จะฝึกให้เด็กคิด วิเคราะห์ ใช้ความรู้

ที่ตัวมีอยู่พร้อมทั้งค้นหาความรู้ใหม่เพิ่มเติม เพื่อหาแนวทางในการ

แก้ปัญหานั้นซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีได้หลายแนวทาง เด็กจะต้องหัด

ตัดสินใจเลือกแนวทางที่มีความเหมาะสมและมีความเป็นไปได้มากที่สุด

ในบริบทนั้นๆ มาหนึ่งแนวทาง แล้วจึงลงมือแก้ปัญหาโดยใช้พื้นฐาน

ทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ในบางกรณีอาจน�

ำไปสู่การ

ออกแบบในเชิงวิศวกรรม การผลิตตามแบบ การทดสอบ ฯลฯ และสิ่งที่

เด็กจะต้องฝึกควบคู่ไปด้วยคือการน�

ำเสนอในสิ่งที่ตัวได้ท�

ำไปให้ผู้อื่น

เข้าใจได้ สิ่งเหล่านี้ สสวท. ได้พัฒนาไปมากแล้วในโครงการ

สะเต็มศึกษา

( STEM : Science Technology Engineering Mathematics)

ซึ่งควรจะมี

การส่งเสริมให้ใช้ในวงกว้างขึ้น ตามความเหมาะสมของบริบททางการศึกษา

ส�

ำหรับในเรื่องของการบริหารองค์กรนั้น สสวท. ก็ได้ปรับปรุง

ให้มีการบริหารในลักษณะที่เป็น project-based management มากขึ้น

เพื่อให้เหมาะสมกับการท�

ำงานที่หวังผลและมีการท�

ำงานในลักษณะเป็น

โครงการ ซึ่งผมเห็นว่าดี และขอให้ก�

ำลังใจให้ปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้น