Table of Contents Table of Contents
Previous Page  8 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 8 / 62 Next Page
Page Background

8

นิตยสาร สสวท

สะเต็มศึกษาคืออะไร

และการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษามีลักษณะอย่างไร

สะเต็มศึกษา (STEM Education)

เป็นชื่อที่ได้มา

จากอักษรแรกของ 4 สาขาวิชาคือ วิทยาศาสตร์ (Science)

เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และ

คณิตศาสตร์ (Mathematics) การจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง

สะเต็มศึกษามีหลากหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบของ

การเรียนรู้ผ่านการแก้ปัญหา การท�

ำโครงงาน การท�

ำวิจัย

การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ การน�

ำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้

เป็นสื่อการเรียนรู้ การเชื่อมโยงความรู้ที่เรียนกับปัญหา

ในชีวิตประจ�

ำวัน และการประกอบอาชีพ การเรียนรู้

จากผู้ประกอบอาชีพสะเต็ม หรือที่เรียกว่า

ทูตสะเต็ม

(STEM Ambassador)

รวมถึงการเรียนรู้อย่างเข้มข้น

ในวิชาที่เกี่ยวข้องกับสะเต็ม สิ่งเหล่านี้ท�

ำให้ค�

ำนิยาม

และความหมายของสะเต็มศึกษามีความหลากหลาย

และแตกต่างกัน เพราะขึ้นอยู่กับมุมมองและเป้าหมาย

ของการน�

ำสะเต็มศึกษาไปใช้ ในบทความนี้สะเต็มศึกษา

จะหมายถึง วิธีการจัดการเรียนรู้รูปแบบหนึ่งที่ใช้ในชั้นเรียน

ซึ่งเป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้นักเรียนได้สืบเสาะหาความรู้

และน�

ำความรู้นั้นมาใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจ�

ำวัน และ/หรือ

การประกอบอาชีพโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาที่เรียกว่า

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (Engineering Design

Process)

ซึ่งประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลักคือ 1) การระบุปัญหา

2) การค้นหาแนวคิดที่เกี่ยวข้อง 3) การวางแผนและพัฒนา

4) การทดสอบและประเมินผล และ 5) การน�

ำเสนอผลลัพธ์

ในการเรียนรู้ผ่านการท�

ำกิจกรรมสะเต็มนั้น นักเรียนจะ

มีปัญหาที่ต้องการวิธีการหรือชิ้นงานในการแก้ไขปัญหา

โดยปัญหานี้อาจเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการด�

ำเนินชีวิต

ของนักเรียน ซึ่งอาจจะถูกก�

ำหนดโดยครูหรือนักเรียนเองก็ได้

จากนั้นนักเรียนก็จะรวบรวมและสืบเสาะหาความรู้ มา

เพื่อหาแนวทางที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหา แล้วน�

ำข้อสรุป

ที่ได้มาสร้างเป็นชิ้นงาน หรือวิธีการที่จะน�

ำไปใช้ในการแก้ปัญหา

ซึ่งอาจจะเป็นการสร้างแบบจ�

ำลองหรือต้นแบบเพื่อน�

ำมา

ทดสอบความสามารถในการแก้ ปั ญหาของชิ้นงาน

หรือวิธีการดังกล่าว และท้ายที่สุด นักเรียนควรจะได้มีโอกาส

น�

ำเสนอผลลัพธ์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการด�

ำเนินงาน

แก้ปัญหาที่นักเรียนได้รับ ผู้อ่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก

เอกสารเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสะเต็มของ สสวท. หรือผ่านทาง

เว็บไซต์สะเต็มศึกษาของ สสวท. ที่

www.stemedthailand.org

ผลิตขึ้นใช้รับมือกับปัญหาต่างๆ ที่มากับเหตุการณ์น�้

ำท่วม

และอาจสมมติให้นักเรียนเป็นวิศวกรที่ต้องช่วยหาวิธีสร้าง

พาหนะทางน�้

ำ ซึ่งในที่นี้ขอเรียกว่า

“แพ”

มาใช้ในการบรรทุก

สิ่งของไม่ให้เปียกน�้

ำ เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์ดังกล่าว

วัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างแพ

กิจกรรมนาวาฝ่าวิกฤตเป็นอย่างไร

กิจกรรมนาวาฝ่าวิกฤต เป็นกิจกรรมการเรียนรู้

ส�

ำหรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ก�

ำลังศึกษา

ในเรื่องแรงพยุง ศูนย์ถ่วง และโมเมนต์ของแรง ในวิชาวิทยาศาสตร์

ศึกษาเรื่องการค�

ำนวณหาปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติ

ในวิชาคณิตศาสตร์ และศึกษาเรื่องการถ่ายทอดความคิด

การออกแบบในวิชาวิศวกรรมศาสตร์และวิชาเทคโนโลยี

ในการท�

ำกิจกรรมนาวาฝ่าวิกฤต ครูอาจยกตัวอย่างให้เห็น

ปัญหาจากภาวะน�้

ำท่ วมที่น�้

ำล้ นทะลักเข้ าบ้ านเรือน

จนท�

ำให้สิ่งของภายในบ้านเสียหายจากการถูกน�้

ำท่วม

และจมน�้

ำ ซึ่งอาจอ้ างอิงถึง เหตุการณ์ มหาอุทกภัย

ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2554 แล้วกระตุ้น

ความสนใจของนักเรียนโดยการน�

ำเสนอสิ่งประดิษฐ์ที่คนไทย