Table of Contents Table of Contents
Previous Page  19 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 19 / 62 Next Page
Page Background

19

ปีที่ 44 ฉบับที่ 201 กรกฎาคม - สิงหาคม 2559

รูปที่ 12

ภาพจ�ำลองหลักการร่อนของลูกยาง

รูปที่ 13

Paper helicopter

สืบค้นเมื่อ 16 มิถุนายน 2559

ที่มา: https://www.exploratorium.edu/ science_explorer/roto-copter.html

6. อภิปรายผลการทดลอง

• ครูและเด็กร่วมกันจดบันทึกผลการทดลอง สิ่งใดที่คาดคะเนเหตุการณ์ได้ ถูกต้องและไม่ถูกต้อง จากนั้นร่วมกันบอกลักษณะ

ของลูกยางที่ได้จากการทดลอง

• ครูเชื่อมโยงผลการทดลองที่เกิดขึ้นกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ตามธรรมชาติของลูกยาง เช่น ลูกยางมีน�้ำหนักเบา

มีปีกยาวโค้งอย่างน้อยสองปีกที่วางตัวอยู่ด้านตรงกันข้าม เพื่อสร้างความสมดุล เมื่อตกจากต้นไม้สูง การมีลมช่วยพัด

จะท�ำให้ลูกยางลอยออกไปได้ไกล การลอยออกไปไกลๆจะช่วยให้เมล็ดสามารถกระจายพันธุ์ไปยังที่ต่างๆ ได้

เนื้อหาเพิ่มเติม

หลักการร่อนของลูกยาง คล้ายปีกเครื่องบินตรงที่

ส่วนบนของปีกมีความยาวมากกว่าส่วนล่าง เวลาเครื่องบิน

เคลื่อนที่ผ่านไปในอากาศ ความดันของอากาศบนปีกจะต�่ำกว่า

ความดันใต้ปีก ท�ำให้ปีกลอยตัว แรงโน้มถ่วงจะดึงให้ลูกยางตกลงมา

แต่ปีกและส่วนของผล (เมล็ด) จะช่วยพยุงท�ำให้ตกช้า ซึ่งมุมของปีก

ที่มีต่อการเคลื่อนที่ เรียกว่า มุมปะทะ (angle of attack) จะท�ำให้

เกิดแรงบิด ลูกยางจึงหมุนรอบแกนดิ่งระหว่างตก

ข้อเสนอแนะ

: ถ้าครูไม่สามารถหาลูกยางจริงได้ ก็สามารถใช้วิธีสืบค้นจากอินเทอร์เน็ต แล้วพิมพ์ตัวอย่างมาให้เด็กๆ สังเกต

แบบที่เลือกควรแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนของเส้นใบที่ปีกอย่างชัดเจน และควรให้ข้อมูลแก่เด็กเกี่ยวกับที่มาของ

แหล่งอ้างอิงที่ครูสืบค้นมาด้วย

: ควรก�ำหนดสิ่งที่ต้องควบคุมในการทดลองให้เหมาะสม เช่น ขนาดของดินน�้ำมัน และความยาวของไม้จิ้มฟัน

การออกแบบที่แตกต่างเพื่อกระตุ้นทักษะการสังเกต

ผู้อ่านอาจเคยเห็นกิจกรรม paper helicopters ที่มีหลักการคล้ายการร่อนของปีกลูกยาง

แต่ส�ำหรับแบบปีกในที่นี้จะแตกต่างออกไป หากผู้อ่านสังเกตบริเวณปีกจะพบว่า ผู้เขียนได้ออกแบบให้

มีลายของเส้นท่อล�ำเลียง และส่วนปีกที่มีความโค้งมน คล้ายปีกของลูกยางจริงในธรรมชาติ จุดประสงค์

ในการออกแบบ เพื่อให้ครูได้ชี้ชวนให้เด็กหัดฝึกทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยการน�ำมาใช้

ในการศึกษาค้นคว้า สืบเสาะหาความรู้ โดยสังเกตส่วนประกอบของปีกลูกยาง ว่ามีท่อล�ำเลียงน�้ำที่มี

ลักษณะเป็นเส้น ปีกมีความโค้งมน และมีส่วนของผลที่ลักษณะคล้ายลูกกลม แทนที่จะออกแบบปีกเป็น

กระดาษสี่เหลี่ยม นักเรียนจะได้ใช้ ทักษะการสังเกต ซึ่งเป็นทักษะที่ควรส่งเสริมในเด็กปฐมวัย โดยการใช้

ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวกายให้เข้าสัมผัส

กับวัตถุหรือเหตุการณ์โดยตรง เพื่อค้นหาข้อมูลและเชื่อมโยงสิ่งที่พบในธรรมชาติกับการเรียนรู้ (อ้างอิง

จาก หนังสือแนวทางการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัย ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2546

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หน้าที่ 24)

บรรณานุกรม

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2551).

หนังสือแนวทางการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2546

.

กรุงเทพมหานคร.

Roto - Copter. Retrieved August 10, 2016, from

https://www.exploratorium.edu/science_explorer/roto-copter.html.

ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2556).

เอกสารประกอบการอบรมจากโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย.

กรุงเทพมหานคร.

ภาพที่ 14 การเชื่อมโยงสิ่งี่ พบเห็นในธรรมชาติ

กับ

การถายทอดเปนแบบํ าลอง

.

ผลของลูกยางในธรรมชาติ

.

แบบจํา

ลองลูกยาง

.

.

รูปที่ 14

การเชื่อมโยงสิ่งที่พบเห็นในธรรมชาติ

กับการถ่ายทอดเป็นแบบจ�ำลอง

(ซ้าย) ผลของลูกยางในธรรมชาติ

(ขวา) แบบจ�ำลองลูกยาง