

ประเทศไทยได้เล็งเห็นความส�
ำคัญของวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีต่อการพัฒนาประเทศมาเป็นเวลานานแล้ว จึงได้จัด
ตั้งสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
ในปี พ.ศ. 2515 ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติสถาบันส่งเสริม
การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2541 ซึ่งก�
ำหนด
วัตถุประสงค์ของ สสวท. ไว้ดังนี้
(1) ริเริ่ม ด�
ำเนินการ ส่งเสริม ประสาน และจัดให้มีการ
ศึกษาค้นคว้า วิจัย และพัฒนาหลักสูตร วิธีการเรียนรู้ วิธีสอน
และการประเมินผลการเรียนการสอนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีทุกระดับการศึกษา โดยเน้นการ
ศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นหลัก
(2) ส่งเสริม ประสาน และจัดให้มีการพัฒนาบุคลากร
การฝึกอบรมครู อาจารย์ นักเรียน นิสิต และนักศึกษาเกี่ยว
กับการเรียนการสอนและการค้นคว้าวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
(3) ส่งเสริม ประสาน และจัดให้มีการค้นคว้า วิจัย ปรับปรุง
และจัดท�
ำแบบเรียน แบบฝึกหัด เอกสารทางวิชาการ และสื่อ
การเรียนการสอนทุกประเภท ตลอดทั้งประดิษฐ์อุปกรณ์เกี่ยว
กับวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
(4) ส่งเสริมการพัฒนาระบบประกันคุณภาพและการประเมิน
มาตรฐานการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ
เทคโนโลยีในสถานศึกษา
(5) พัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางด้าน
วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ตลอดทั้งการส่งเสริม
การผลิตครู อาจารย์ที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี
(6) ให้ค�
ำปรึกษาแนะน�
ำแก่กระทรวง ทบวง กรม ส่วน
ราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือหน่วย
งานของเอกชนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษา หรือสถาน
ศึกษา เฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับอ�
ำนาจหน้าที่ตาม (1) ถึง (5)
ตลอดระยะเวลาสี่สิบปีเศษ สสวท. ได้ปฏิบัติงานอย่างเข้ม
แข็ง ประสบผลส�
ำเร็จตามวัตถุประสงค์อย่างครบถ้วนและต่อ
เนื่อง โดยสังเขป สสวท. ได้พัฒนาหลักสูตร คู่มือ ต�
ำราและ
อุปกรณ์ประกอบการเรียนสาระวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
และเทคโนโลยี ได้ร่วมการประเมินผลการเรียนในระดับนานาชาติ
ได้ผลิตและพัฒนาครูผู้มีความสามารถ ได้สร้างผู้มีความสามารถ
พิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บุคคลเหล่านี้ได้เป็น
ก�
ำลังส�
ำคัญในหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ
รัฐ สถาบันอุดมศึกษา ศูนย์วิจัยและพัฒนา และโรงเรียนสาย
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ท�
ำไมประเทศไทยต้องใช้สะเต็มศึกษา?
ประเทศไทยอาจมีเหตุผลความจ�
ำเป็นต่าง ๆ ที่ต้องปรับ
เปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น
นักเรียนที่สนใจเรียนสาขาวิทยาศาสตร์น้อยลง เนื่องจาก
เป็นการเรียนที่ยาก แต่สาขาศิลปศาสตร์เรียนได้ง่ายกว่า งาน
ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหายากกว่า ได้ค่าตอบแทนน้อย
กว่างานด้านอื่น ๆ เช่น บันเทิง ธุรกิจ ท่องเที่ยว แฟชั่น หรือ
การกีฬา แต่ผู้เขียนมีความเห็นว่า เหตุผลหลักที่ประเทศไทย
ต้องเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมา
เป็นแบบสะเต็มศึกษามีดังต่อไปนี้
1. ความรู้และความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ของเยาวชนไทยยังด้อยกว่านานาชาติ
แม้ สสวท. จะได้ด�
ำเนิน
งานตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นที่ทราบ
กันว่าประเทศไทยยังมีขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีที่ด้อยกว่าหลายประเทศ เช่น เกาหลี สิงคโปร์และ
จีน ถึงแม้นักเรียนไทยสามารถชิงเหรียญรางวัลในการแข่งขัน
โอลิมปิกวิชาการ แต่การทดสอบความรู้และทักษะด้านการอ่าน
วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์โดย PISA และ TIMSS แสดงให้
เห็นว่าเยาวชนไทยยังแพ้เยาวชนอีกหลายประเทศ สาเหตุหลัก
เกิดจากการเรียนแบบท่องจ�
ำ แต่ขาดทักษะในการคิดวิเคราะห์
และสังเคราะห์
2. ประเทศไทยต้องการหลุดพ้นจากการเป็นประเทศที่มีราย
ได้ปานกลาง
ในอดีตประเทศไทยเคยเป็นประเทศที่มีรายได้ต�่
ำ
ปีที่ 42
|
ฉบับที่ 185
|
พฤศจิกายน-ธันวาคม 2556
15