

แต่ปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง โดยการพัฒนา
ที่อาศัยค่าแรงราคาถูกและทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่มากมาย
ในประเทศ ในอนาคตข้างหน้าค่าแรงของไทยก�
ำลังเพิ่มสูงขึ้น
และทรัพยากรเริ่มขาดแคลน ดังนั้นการที่ประเทศไทยยกระดับ
รายได้ให้สูงขึ้นอีก ในปี พ.ศ. 2555 ส�
ำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้น�
ำเสนอการบูรณา
การยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy)
เพื่อให้ไทยหลุด
พ้นจากการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางไทยจะต้องเพิ่มขีด
ความสามารถในการแข่งขัน ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี และทักษะในการสร้างนวัตกรรมเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่
จ�
ำเป็นต้องได้รับการพัฒนา
3. ก�
ำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่สามารถ
รองรับการแข่งขันในอนาคต
ข้อมูลจากส�
ำนักงานคณะกรรมการ
นโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติแสดงว่า
ในปี 2554 ประเทศไทยมีก�
ำลังแรงงาน 39 ล้านคน แต่มีเพียง
3 ล้านคน หรือต�่
ำกว่าร้อยละสิบของแรงงานทั้งหมด ที่เป็น
ก�
ำลังคนที่ท�
ำงานโดยอาศัยความรู้และทักษะด้านวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีหรือก�
ำลังคนด้านสะเต็ม (STEM workforce)
ในจ�
ำนวนนี้ร้อยละ 89 ส�
ำเร็จการศึกษาต�่
ำกว่าปริญญาตรี
สะเต็มศึกษาคืออะไร?
สะเต็มศึกษา
คือวิธีการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ในทุกระดับชั้น ตั้งแต่อนุบาล ประถม
ศึกษา มัธยมศึกษา ไปจนถึงอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา โดย
ไม่เน้นเพียงการท่องจ�
ำสูตรหรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์หรือ
สมการคณิตศาสตร์เพียงอย่างเดียว แต่ สะเต็มศึกษาจะฝึกให้
ผู้เรียนรู้จักวิธีคิด การตั้งค�
ำถาม แก้ปัญหาและสร้างทักษะการ
หาข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อค้นพบใหม่ ๆ ท�
ำให้ผู้เรียนรู้จัก
น�
ำองค์ความรู้จากวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์สาขาต่าง ๆ
มาบูรณาการกัน เพื่อมุ่งแก้ปัญหาส�
ำคัญ ๆ ที่พบในชีวิตจริง
ดังนั้น สะเต็มศึกษา จึงมักเน้นการท�
ำโครงการแก้ปัญหาหรือ
สร้าง
นวัตกรรม
ใหม่ ๆ โดยวิธีบูรณาการความรู้วิทยาศาสตร์และ
คณิตศาสตร์ก่อให้เกิดเทคโนโลยีที่ใช้ประโยชน์ ส่วนวิศวกรรม
ในสะเต็มศึกษาระดับโรงเรียนหมายถึงการสร้าง การดัดแปลง
การท�
ำต้นแบบ รวมถึงการออกแบบกระบวนการผลิตหรือการ
บริการโดยการประยุกต์ความรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และ
เทคโนโลยี ไม่ได้จ�
ำกัดเฉพาะวิศวกรรมสาขาที่เรียนในคณะ
วิศวกรรมศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษาเท่านั้น
อนึ่งค�
ำว่า สะเต็ม (STEM) เป็นค�
ำย่อที่มาจาก
S
cience
T
echnology
E
ngineering &
M
athematics หลายประเทศนิยม
ใช้ค�
ำนี้
[1]
แต่ก็มีบางคนอาจเติม A (Arts) กลายเป็น STEAM
การปรับเปลี่ยนสู่สะเต็มศึกษาต้องท�
ำอย่างไร?
เนื่องจากสะเต็มศึกษาเป็นวิธีใหม่ในการเรียนการสอน
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ ดังนั้นจึงจ�
ำเป็นต้อง
ปรับหลักสูตรในสามมิติ
[2]
กล่าวคือ มิติสาระจะเน้นความรู้ที่
จ�
ำเป็นและทันสมัย และต้องแบ่งเวลาให้มิติการปฏิบัติในการคิด
แก้ปัญหา การค้นคว้าหาข้อมูลและการทดลองทดสอบที่จะน�
ำ
ไปสู่ความรู้ใหม่หรือความจริงใหม่ ส่วนมิติบูรณาการสาระร่วม
ระหว่างวิชาแล้วท�
ำโครงงานสร้างผลงานเชิงวิศวกรรมใหม่หรือ
นวัตกรรมที่ใช้ เมื่อมีการปรับหลักสูตร ครูก็ต้องปรับวิธีการสอน
เนื้อหาสาระและสอนการคิดและการปฏิบัติแบบนักวิทยาศาสตร์
การประเมินผลการเรียนก็ต้องประเมินทั้งสาระความรู้และทักษะ
ในการคิดวิเคราะห์และการปฏิบัติแบบนักวิทยาศาสตร์ การ
ปรับทั้งสามประการก็ยังต้องท�
ำให้สอดคล้องกับสถานะของผู้
เรียน ระดับชั้นเรียนและสภาวะแวดล้อมของสถานศึกษาด้วย
นอกจากนี้ยังเตรียมผู้ส�
ำเร็จการศึกษาที่ต้องท�
ำงาน หรือศึกษา
ต่อในสภาวะเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ทูตสะเต็มจ�
ำเป็นต่อการด�
ำเนินสะเต็มศึกษา?
เนื่องจากสะเต็มศึกษาจะเน้นให้ผู้ส�
ำเร็จการศึกษาสามารถน�
ำ
ความรู้และทักษะการคิด วิเคราะห์แบบนักวิทยาศาสตร์และนัก
เทคโนโลยี ไปใช้ในชีวิตจริง การประกอบอาชีพและการศึกษาต่อ
ดังนั้นจึงจ�
ำเป็นต้องมีความเชื่อมโยงกับสถานประกอบการและ
หน่วยงานที่จะรับผู้ส�
ำเร็จการศึกษาภาคบังคับ ภาคอาชีวศึกษา
“
าษกึศม็ตเะส
”
การบูรณาการในกลุ
รตสาศติณคะลแ
รตสาศายทิวาชิวม
25/11/56
Dr. Montri Chulavatnatol
ฟ
สิกส
ติณค
ชีวะ
เคมี
ติณค
เคมี
ชีวะ
ฟ
สิกส
มรรกตัวน
มหใ
ฑณัภติลผ
กระบวนการใหม
บริการใหม
ธุ
มหใจิกร
ผู
ประกอบการใหม
สังคมใหม
11/09/56
Dr. Montri Chulavatnatol
รตูสกัลห
ครู
นิมเะรปราก
นยีรเกัน
าษกึศกัน
จิกฐษรศเ
มคงัส
ตูท
ม็ตเะส
ตูท
ม็ตเะส
ตูท
ม็ตเะส
ตูท
ม็ตเะส
นิตยสาร สสวท.
16