

นิตยสาร สสวท.
26
ค�
ำถามเป็นเครื่องมือจ�
ำเป็นส�
ำหรับครูวิทยาศาสตร์
ครูวิทยาศาสตร์ใช้ค�
ำถามในหลายจุดประสงค์ เช่น เพื่อจัดการ
ชั้นเรียน เพื่อลดความเพิกเฉยและเฉื่อยชาของนักเรียน
ลดพฤติกรรมที่ดูสับสนวุ่นวาย เพื่อเริ่มต้นการสืบเสาะหาความรู้
เพื่อแนะน�
ำนักเรียนในการจัดระบบข้อมูล และเพื่อกระตุ้น
ให้นักเรียนแสดงแนวคิดหรือความรู้ที่มีให้ผู้อื่นได้รับรู้
เครื่องมือที่ส�
ำคัญอย่างหนึ่งในกล่องค�
ำถาม คือ
ทักษะที่ท�
ำให้รู้ว่าเวลาใดที่ควรจะถามค�
ำถามปลายปิด และ
เวลาใดที่ควรจะถามค�
ำถามปลายเปิด ตลอดจนควรถามอย่างไร
ค�
ำถามทั้งสองประเภทนี้มีส่วนส�
ำคัญในการประเมินความรู้
เดิมและส่งเสริมการเรียนรู้ใหม่ แต่ใช้ในแนวทางที่แตกต่างกัน
ค�
ำถามปลายปิดมีค�
ำตอบที่ถูกเพียงค�
ำตอบเดียวในขณะที่
ค�
ำถามปลายเปิดมีค�
ำตอบถูกได้หลากหลาย
ค�
ำถามปลายปิ ดต้ องการให้ นักเรียนคิดแบบ
convergent หมายความว่า ต้องใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง
เพื่อหาค�
ำตอบที่ถูกต้องหรือเพื่อแก้ปัญหา เช่น การมุ่งเน้น
ไปที่ความจริงเดี่ยว หรือการให้นิยามที่เฉพาะเจาะจงของค�
ำ
การตอบค�
ำถามปลายปิดของนักเรียนจะช่วยประเมินความรู้
ความจ�
ำของพวกเขาได้ซึ่งช่วยให้ครูสามารถปรับการสอน
ให้สอดคล้องกับนักเรียนได้
ในทางตรงข้าม ค�
ำถามปลายเปิดจะช่วยกระตุ้นให้
นักเรียนมีการอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ค�
ำถามปลาย
เปิดต้องการให้นักเรียนมีสัดส่วนของโครงสร้างทางปัญญา
ที่กว้างหรือให้คิดแบบ divergent หมายความว่าให้คิดกว้าง
ตามล�
ำดับของความเป็นไปได้
ในห้องเรียนตามปกติเกือบจะทุกวิชา ค�
ำถามส่วนใหญ่
ของครูจะเป็นค�
ำถามปลายปิดที่ถามข้อเท็จจริง หรือถาม
เพื่อให้นักเรียนคิดแบบ convergent มีงานวิจัยพบว่า
เปอร์ เซ็นต์ของการถามค�
ำถามปลายเปิดที่เพิ่มขึ้นเพียง
เล็กน้อยจะเพิ่มการคิดแบบ divergent ซึ่งนักเรียนส่วนมาก
จะตอบด้วยการคิดไตร่ตรองมากขึ้น และแสดงออกซึ่ง
การคิดระดับสูง นอกจากนี้ ค�
ำตอบดังกล่าวยังน�
ำไปสู่
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักเรียนด้วยกันอีกด้วย
(Carin and Sund, 1978)
ค�
ำถามของครูเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่ามี
ส่วนส�
ำคัญมากในการช่วยให้นักเรียนเชื่อมโยงและเรียนรู้
มโนทัศน์ที่ส�
ำคัญทางวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ผลจาก
การที่นักวิจัยได้สังเกตพฤติกรรม การถามค�
ำถามของครู
ในห้องเรียน พบว่า มักไม่เกิดการถามค�
ำถามที่มีประสิทธิภาพ
ครูต้องเรียนรู้ล�
ำดับขั้นตอนของการถามและถามอย่างมี
ล�
ำดับขั้นตอน (Weiss and Pasley, 2004)
การถามอย่ างมีล�
ำดับขั้นตอนจะเกี่ยวข้ องกับ
การเลือกและการใช้ ชนิดของค�
ำถามที่เฉพาะเจาะจง
และถามได้เหมาะสมกับสถานการณ์ การถามค�
ำถามที่
เฉพาะเจาะจง เช่น การถามค�
ำถามปลายปิดและค�
ำถาม
ปลายเปิด ซึ่งการถามค�
ำถามที่เฉพาะเจาะจงเปรียบได้กับ
เครื่องมือที่ช่างไม้ใช้ เครื่องมือช่าง แต่ละชนิดจะมีหน้าที่
เฉพาะอย่าง ช่างไม้ใช้เครื่องมือที่หลากหลายในการตอก
ตะปู ตัดแผ่นกระดาน หรือตัดไม้ออกเป็นท่อน ๆ ช่างไม้
มืออาชีพจะวางแผนล่วงหน้าโดยการจัดเก็บเครื่องมือไว้ใน
กล่องเครื่องมืออย่างเป็นระเบียบและเลือกเครื่องมือแต่ละ
อย่างมาใช้อย่างมีระบบด้วยความช�
ำนาญ เช่นเดียวกับ
ครูมืออาชีพที่จ�
ำเป็นต้องมีค�
ำถามที่เฉพาะส�
ำหรับงานด้าน
การศึกษาแต่ละอย่าง เช่น การก�
ำหนดระดับขั้นของการคิด
ในการสืบเสาะหาความรู้ การกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ในชั้นเรียน การกระตุ้นการคิดอย่างลึกซึ้ง และ
การสร้ างค�
ำอธิบายอย่ างมีความหมายเพื่อเชื่อมโยง
หลักฐานจากการส�
ำรวจตรวจสอบ กับสิ่งที่เป็นความรู้เดิมของ
นักเรียน ครูกับช่างไม้จึงมีความคล้ายคลึงกันเนื่องจากต้องรู้
ว่าควรจะใช้เครื่องมือชนิดใด เวลาใด และใช้อย่างไร
การใช้ค�
ำถาม: เครื่องมือจ�
ำเป็นส�
ำหรับครูวิทยาศาสตร์
ค�
ำถามปลายปิด (Close – ended Question)
และ ค�
ำถามปลายเปิด (Open – ended Question)
ตัวอย่างค�
ำถามปลายปิดและปลายเปิดพร้อมจุดประสงค์
ในการถามที่จะน�
ำไปสู่ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ครูคนหนึ่งสาธิตการทดลองให้นักเรียนดูด้วยการ
ปั้นดินน�้
ำมันชนิดเดียวกันและมวลเท่ากัน จ�
ำนวน 2 ก้อน
เป็นรูปทรงต่างกัน โดยก้อนที่ 1 ปั้นเป็นรูปถ้วย และก้อนที่ 2
ปั้นเป็นก้อนกลม จากนั้นน�
ำไปวางบนผิวน�้
ำในแก้วใบที่ 1
และใบที่ 2 ตามล�
ำดับ ได้ผลดังภาพ