Table of Contents Table of Contents
Previous Page  24 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 24 / 62 Next Page
Page Background

24

นิตยสาร สสวท

การน�

ำจ�

ำนวนเชิงซ้อนไปใช้ไขปัญหาขุมทรัพย์นี้ จะต้องท�

ำความเข้าใจความหมายของการคูณ

จ�

ำนวนเชิงซ้อนก่อน จากที่เคยเรียนมาแล้วว่า การคูณจ�

ำนวนเชิงซ้อนด้วยจ�

ำนวนจริงเปรียบได้กับการคูณเวกเตอร์

ด้วยปริมาณสเกลาร์ ตัวอย่างเช่น เมื่อน�

ำจ�

ำนวนจริง 3 ไปคูณจ�

ำนวนเชิงซ้อน 2+3i จะได้ 6+9i หรือกล่าวว่า

ผลคูณจะเป็น 3 เท่าของจ�

ำนวนเชิงซ้อน 2+3i ดังรูปที่ 2 หรือเขียนในรูปเวกเตอร์ ได้เป็น

3

(1

1

2

2

3

= 6

9 -— 1

2—

(0,0)

(2,3)

0 1

1

2

3

4

2

-2 -1

-1

M ²

+

Q(-1,0)

90°

ll

ll

M ²

Q(-1,0)

90°

-1-b+(1+a)i

-(1+a)-bi

(-1-a,-b)

-b+(1+a)i

-b,(1+a)

(-1-b,1+a)

+

ซึ่งก็จะได้ผลคูณเป็นเวกเตอร์ที่มีทิศทางเดิมแต่มีขนาดเป็น 3 เท่า ในท�

ำนองเดียวกัน หากน�

ำจ�

ำนวนจริงลบ เช่น

0 1

2

3

4

5

6 7

3

(1+b)+(-1-b)

2

2

, (1-a)+(1+a)

1

2

2

3

= 6

9 -— 1

2—

(0,0)

(2,3)

0 1

1

2

3

4

2

-2 -1

-1

3

(0,0)

(2,3)

Y

M ²

M ¹

X

+

+

P(1,0)

R(a,b)

90°

Q(-1,0)

90°

-1

1

i

-i

0

0

(6,9)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

-2 -1

-1

90°

ll

ll

l

l

Y

M ²

M ¹

X

P

R

90°

Q

i

-1

0

1

1

-2

2

90°

Y

M ²

X

P(1,0)

R(a,b)

Q(-1,0)

90°

-1-b+(1+a)i

-(1+a)-bi

(-1-a,-b)

-b+(1+a)i

-b,(1+a)

(-1-b,1+a)

Y

M ¹

X

+

P(1,0)

b+(1-a)i

b,(1-a)

1+b+(1-a)i

(1-a)-bi

(1-a,-b)

(1+b,1-a)

R(a,b)

Q(-1,0)

90°

90°

+

90°

+

+

-(1+b)+(1+a)i

(1+b)+(1-a)i

ไปคูณจะได้ผลคูณเป็นเวกเตอร์ที่มีทิศทางตรงกันข้ามแต่มีขนาดเป็น

0 1

2

3

4

5

6 7

3

(1+b)+(-1-b)

2

2

, (1-a)+(1+a)

1

2

2

3

= 6

9 -— 1

2—

(0,0)

(2,3)

0 1

1

2

3

4

2

-2 -1

-1

3

(0,0)

(2,3)

Y

M ²

M ¹

X

+

+

P(1,0)

R(a,b)

90°

Q(-1,0)

-1

(6,9)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

-2 -1

-1

90°

ll

ll

l

l

M ²

Q

-1

-2

90°

Y

M ²

X

P(1,0)

R(a,b)

Q(-1,0)

90°

-1-b+(1+a)i

-(1+a)-bi

(-1-a,-b)

-b+(1+a)i

-b,(1+a)

(-1-b,1+a)

Q(-1,0)

+

90°

+

-(1+b)+(1+a)i

เท่า

0 1

2

3

4

5

6 7

2

2

(0,0)

(2,3)

0 1

1

2

3

4

2

-2 -1

-1

3

(0,0)

(2,3)

Y

M ²

M ¹

X

+

+

P(1,0)

R(a,b)

90°

Q(-1,0)

(6,9)

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

-2 -1

-1

90°

ll

ll

l

l

Y

M ²

-b,(1+a)

(-1-b,1+a)

Q(-1,0)

+

รูปที่ 2

การคูณ 2+3i ด้วย 3

ลองพิจารณาการคูณจ�

ำนวนเชิงซ้อนด้วย i เมื่อคูณ 1 ด้วย i จะได้ i และเมื่อคูณผลคูณด้วย i ไปเรื่อยๆ

จะได้ –1, –i และ 1 ตามล�

ำดับ สามารถเขียนแสดงในรูปเวกเตอร์ได้ดังรูปที่ 3

90°

-1

1

i

-i

0

0

รูปที่ 3

การคูณ 1 ด้วย i

การคูณจ�

ำนวนเชิงซ้อนด้วย i เป็นการหมุนเวกเตอร์

รอบจุด (0,0) เป็นมุม 90 องศา ในทิศทวนเข็มนาฬิกา

ในท�

ำนองเดียวกัน การคูณจ�

ำนวนเชิงซ้อนด้วย –i เป็นการหมุน

เวกเตอร์รอบจุด (0,0) ไปเป็นมุม 90 องศา ในทิศตามเข็มนาฬิกา

เ มื่ อ น�

ำ ล า ย แ ท ง ขุ ม ท รั พ ย์ ม า เ ขี ย น ล ง บ น

ระนาบเชิงซ้อน ดังรูปที่ 4 โดยก�

ำหนดจุด R(a,b) แทน

ต�

ำแหน่งของที่แขวนคอนักโทษ จุด P และ Q แทน ต�

ำแหน่ง

ต้นสนและต้นโอ๊ก ตามล�

ำดับ ให้แกนจริงเป็นเส้นตรงที่ผ่าน

ต้นไม้ทั้งสองต้น และแกนจินตภาพเป็นเส้นตรงที่ตั้งฉากกับ

แกนจริงและตัดแกนจริงที่จุดกึ่งกลางระหว่างต้นไม้ทั้งสอง

โดยไม่เสียนัยทั่วไป เราสามารถก�

ำหนดให้ P มีพิกัดเป็น (1,0)

และ Q มีพิกัดเป็น (–1,0)