

42
นิตยสาร สสวท
ซาคารอฟเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1921 ที่กรุงมอสโก
(Moscow) ประเทศรัสเซีย บิดาเป็นครูสอนฟิสิกส์ ซึ่งชอบใช้
เวลาว่ างเขียนบทความวิทยาศาสตร์ ให้ คนทั่วไปอ่ าน
และโปรดปรานดนตรีคลาสสิก เพราะพ่อแม่เป็นคนได้รับ
การศึกษา ซาคารอฟจึงเป็นคนชอบทั้งวิทยาศาสตร์และ
ศิลปศาสตร์ แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว
หลังจากที่ซาคารอฟจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา เมื่ออายุ
17 ปี เขาได้ไปเรียนฟิสิกส์ระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย
มอสโก
ในเวลานั้นกองทัพนาซีของเยอรมนีก�
ำลังเรืองอ�
ำนาจ
และก�
ำลังคุกคามนานาประเทศในยุโรป ด้วยการบุกรัสเซีย
บรรดาหนุ่มรัสเซียจึงถูกกองทัพเกณฑ์ไปเป็นทหาร ซาคารอฟ
ซึ่งก�
ำลังป่วยเป็นโรคหัวใจระยะเริ่มต้นได้สมัครเป็นทหารด้วย
เพราะรักชาติมาก แต่ถูกกองทัพปฏิเสธ ท�
ำให้ต้องกลับ
ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยจนส�
ำเร็จปริญญาตรีในวัย 21 ปี
และได้ประกาศเจตนาว่า ไม่ต้องการเรียนต่อ เพราะต้องการ
เป็นทหารรับใช้ชาติในสงครามมากกว่า จึงไปท�
ำงานเป็น
วิศวกรในโรงงานสร้างอาวุธที่เมืองอัลยานอฟ (Ulyanovsk)
โดยมีหน้าที่ทดสอบความแข็งแกร่งของกระสุนปืน
ขณะปฏิบัติงานซาคารอฟได้พบ คลาวา วิคิเรวา
(Klava Vikhireva) ทั้งสองได้แต่งงานกัน ในเวลานั้นซาคารอฟ
มีอายุ 22 ปี และยังสนใจฟิสิกส์เหมือนเดิม โดยได้พยายาม
ท�
ำโจทย์ฟิสิกส์ที่ยากในยามว่างแล้วส่งค�
ำตอบไปให้บิดาใช้
ในการสอนพิเศษ
เมื่อบิดาอ่านโจทย์ และเห็นวิธีแก้ปัญหาของ
ลูกชายก็รู้สึกประทับใจมาก จึงน�
ำผลงานเหล่านั้นไปให้
อิกอร์ แทมม์ (Igor Tamm) อ่าน (แทมม์เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี
รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ปี ค.ศ. 1958 ผู้มีส่วนในการอธิบาย
การเกิดรังสีเซอเรนคอฟ (Cerenkov) ซึ่งเป็นรังสีที่อนุภาค
เปล่งออกมาเวลาเคลื่อนที่ในตัวกลางด้วยความเร็วที่สูงกว่า
ความเร็วแสงในตัวกลางนั้น) เมื่อแทมม์ได้อ่านและเห็นวิธีคิด
ของซาคารอฟ รู้สึกประทับใจในความสามารถของคนเขียนมาก
จึงชักชวนให้เรียนต่อระดับปริญญาเอก โดยสัญญาจะเป็น
อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ให้
เดือนสิงหาคมปี คศ. 1945ซาคารอฟรู้ข่าวสหรัฐอเมริกา
ทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมา (Hiroshima) และนางาซากิ
(Nagasaki) ในญี่ปุ่น ซาคารอฟจึงสนใจจะท�
ำวิจัยเรื่องฟิชชัน
(fission) (ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่นิวเคลียสของธาตุหนัก เช่น
ยูเรเนียม (Uranium) และพลูโตเนียม (Plutonium) แยกตัว
เวลารับอนุภาคนิวตรอนเข้าไป แล้วปล่อยพลังงานมหาศาล
ออกมา) เพื่อสร้างระเบิดปรมาณูให้รัสเซียบ้าง
ทั้งๆ ที่ในเวลานั้น ซาคารอฟก�
ำลังวิจัยเรื่อง
เทคโนโลยีการค้นหาเรือด�
ำน�้
ำ แต่ก็สามารถเบนความสนใจ
จากเรือด�
ำน�้
ำไปเป็นฟิสิกส์นิวเคลียร์ได้ในทันที และคิดว่า
ถ้าเป็นไปได้จะสร้างระเบิดปรมาณูให้มีพลังในการท�
ำลายล้าง
ยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูของอเมริกา โดยการใช้ปฏิกิริยาฟิชชัน
(ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มีการหลอมรวมนิวเคลียสของธาตุเบา
สองนิวเคลียสเข้าด้วยกัน) เพราะกระบวนการนี้สามารถปล่อย
พลังงานออกมาได้มากกว่าฟิชชัน
ซาคารอฟได้ศึกษาพบว่า ถ้าใช้อะตอมไฮโดรเจน
(ที่มีโปรตอน และอิเล็กตรอนอย่างละ 1 อนุภาค) สองอะตอม
มาหลอมรวมกัน ปฏิกิริยาฟิวชันจะเกิดขึ้นยาก แต่ถ้าใช้อะตอม
ที่มีโปรตอน 1 อนุภาค และอนุภาคมิวออน (muon) 1 อนุภาค
เมื่อน�
ำอะตอมชนิดใหม่มาหลอมรวมกัน ปฏิกิริยาฟิชชัน
จะเกิดได้ง่ายกว่า เพราะอะตอมชนิดใหม่มีขนาดเล็กกว่า
อะตอมไฮโดรเจน ความคิดนี้ท�
ำให้ซาคารอฟได้รับเชิญ
เข้าร่วมโครงการผลิตระเบิดปรมาณูของรัสเซีย แต่ซาคารอฟ
ตอบปฏิเสธ เพราะไม่ประสงค์จะให้ตนเป็นเครื่องมือของ
นักการเมือง