Table of Contents Table of Contents
Previous Page  33 / 62 Next Page
Information
Show Menu
Previous Page 33 / 62 Next Page
Page Background

33

ปีที่ 44 ฉบับที่ 200 พฤษภาคม - มิถุนายน 2559

ได้ที่ธนาคารแต่ละแห่ง ซึ่งจะมีหลากหลายแบบเพื่อให้เลือก

ตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล หรือที่ท�ำงานบางแห่ง

อาจมีกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพ

4

เป็นสวัสดิการพนักงานเพื่อ

เป็นการออมเงินไว้ให้พนักงาน เวลาเกษียณจะได้มีเงินก้อนใช้

“วินัย” สอนไว้ว่า เงินส่วนนี้ เก็บแล้วห้ามถอน

ออกมาใช้ ให้ฝากยาว แต่หมั่นตรวจเช็คดูว่ามีจ�ำนวนเท่าไหร่

และวางแผนน�ำเงินไปลงทุนเพื่อต่อยอดจ�ำนวนเงินให้เพิ่ม

มากขึ้น เช่น อาจจะลงทุนในหุ้น

5

หรือ กองทุนอสังหาริมทรัพย์

6

เป็นต้นทั้งนี้ เราต้องศึกษารายละเอียดของการลงทุนแต่ละประเภท

ให้เหมาะกับความเสี่ยงที่เรารับได้

เงินใช้จ่ายประจำ�

กันเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่าย

ส�ำหรับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจ�ำ

รายเดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร

ค่าพาหนะ ค่าน�้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์

ค่าอินเทอร์เน็ต

เงินฉุกเฉิน

เก็บเงินบางส่วนไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉิน เช่น

ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมบ�ำรุงบ้าน-รถ ซึ่งหากเดือนไหน

ไม่ได้ใช้ก็สามารถโยกไปเป็นเงินออมได้

เงินอื่นๆ

ค่าใช้จ่ายทางสังคม ค่าท�ำบุญงานศพ ค่าของขวัญ

งานแต่งงาน ค่าเสื้อผ้า เครื่องใช้ส่วนตัว เป็นต้น

เพื่อให้มนุษย์เงินเดือน (น้อย) สามารถด�ำรงชีวิต

อยู่ได้อย่างราบรื่น เพราะปัจจัยทางเศรษฐกิจมีผลกระทบ

ต่อการด�ำรงชีวิต และก�ำลังซื้ออยู่ในภาวะถดถอย ผู้เขียนขอ

เสนอเทคนิคและวิธีการลดค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋า

หลายคนอาจจะไม่คาดคิดว่า ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันในบาง

เรื่อง จะมีผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าของมนุษย์เงินเดือน

(น้อย) มากมาย ลองมาดูกันว่าเราจะสามารถลดค่าใช้จ่ายและ

เพิ่มเงินในกระเป๋าได้อย่างไรบ้าง

• ลดการซื้อสินค้าแบรนด์เนม คงจะเป็นเรื่องยาก

ส�ำหรับคนที่ติดสินค้าแบรนด์เนม แต่เชื่อหรือไม่

สินค้าแบรนด์เนมที่ซื้อมาด้วยราคาแพง เป็นการ

ใช้สอยที่ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป บางคนใช้สินค้านั้น

แค่ครั้งหรือสองครั้งแล้วก็เปลี่ยนไปซื้อยี่ห้อใหม่

หรือรุ่นที่ออกใหม่ ของเก่าจึงกลายเป็นของไร้ค่า

ซุกอยู่ที่ก้นตู้ถ้าลดการใช้จ่ายเรื่องนี้ได้ ก็จะพบว่า

มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น

• ประหยัดน�้ำ ประหยัดไฟ ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวที่ทุกคน

สามารถท�ำได้ มีหลายวิธีในการประหยัดเพื่อใน

แต่ละเดือนจะมีเงินเหลือเพิ่มขึ้น ให้ทดลอง 1-2 เดือน

แล้วเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในเดือนก่อนนั้นว่า

มีความแตกต่างกันหรือไม่

• ลองเปรียบเทียบราคาสินค้าอุปโภค และบริโภค

ก่อนซื้อตรวจสอบจากเว็บไซต์ หรือจากประกาศ

โฆษณาต่างๆ ของห้าง ร้าน และจดรายการที่

จ�ำเป็นต้องซื้อและต้องใช้จริงๆ

• หักห้ามใจซื้อสินค้าที่ลดราคาในปริมาณที่มากเกิน

ความจ�ำเป็น ควรซื้อแค่พอดีใช้ เพราะปัจจุบันห้าง

ร้านต่างๆ มักจัดรายการลดราคาบ่อย

• วางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบ เพื่อจะได้

ไม่เสียเวลาและประหยัดค่าน�้ำมัน

• ท�ำอาหารเองที่บ้าน นอกจากจะได้รับประทาน

อาหารที่สะอาด และรสชาติถูกปากแล้ว ยังเป็น

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในครอบครัว

ลดการออกไปรับประทานอาหารที่มีราคาแพง

นอกบ้านด้วย แต่อาจจะออกไปรับประทานข้าว

นอกบ้านบ้าง ตามโอกาสที่ส�ำคัญๆ เพื่อเปลี่ยน

บรรยากาศ

• ลดการบริโภคชา กาแฟ น�้ำอัดลม และน�้ำหวาน

เครื่องดื่มทั้งหลายที่บั่นทอนทั้งเงินในกระเป๋าและ

สุขภาพลองลดดู1- 2 เดือนก็จะพบว่าเรามีเงินเหลือ

เพิ่มขึ้นแถมได้ลดน�้ำตาลในเลือดอีกทางหนึ่งด้วย

บางคนติดกาแฟที่มียี่ห้อดังและราคาแพง ลองค�ำนวณ

คร่าวๆ ในกรณี ที่ดื่มกาแฟทุกวัน ถ้าราคากาแฟ

ต่อแก้วอยู่ที่ 40 บาท ภายในเวลา 30 วัน ก็จะคิด

เป็นเงิน1,200บาทต่อเดือนแล้วถ้าคูณด้วย12 เดือน

ก็จะเห็นตัวเลขการประหยัดชัดเจนมากยิ่งขึ้น

• การออกก�ำลังกายอย่างสม�่ำเสมอเพื่อให้มีสุขภาพดี

จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้และ

มีร่างกายแข็งแรง พร้อมจะสู้กับงานในวันต่อไป

การออกก�ำลังกายไม่ จ�ำเป็ นต้ องไปสถานที่

ออกก�ำลังกายฟิตเนสที่ต้องเสียค่าใช้บริการเป็น

รายเดือน หรือรายปี เพราะทุกวันมีสวนสาธารณะ

หลายแห่งที่สะอาด และสะดวก อีกทั้งสามารถไป

ใช้บริการได้ฟรี ในสถานที่บางแห่งอาจต้องเสีย

ค่าบ�ำรุงไม่แพงมากเท่ากับสถานที่ออกก�ำลังกาย

ฟิตเนส หรืออาจจะเลือกวิธีออกก�ำลังกายที่ไม่ต้อง

ใช้อุปกรณ์เสริม เช่น เดิน วิ่ง และโยคะ เป็นต้น

$

$